

- คณะนิเทศศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- แลนักวิชาการด้านสื่อได้ออกแถลงการณ์คัดค้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้ทำหนังสือขอให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)สนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอคสดการแข่งขันฟุตบอลโลก2022 เป็นจำนวนเงินค่าซื้อลิขสิทธิ์รวมภาษีสูงถึง 42 ส้านเหรียญ หรือประมาณ 1,600 ล้านบาท นั้น โดยกสทช.จะนำเรื่องดังกล่าว มาพิจารณาในที่ประชุมบอร์ดกสทช.วันพรุ่งนี้ (9 พ.ย.)
ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าว ถูกกระแสคัดค้าน และตั้งคำถามจากสังคมในวงกว้างว่ามูลค่าการซื้อลิขสิทธิ์นั้นแพงเกินไป จากเดิมเคยมีการเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ราว 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯและขณะนี้ใกล้เวลาจะถ่ายทอดสดแล้ว ราคาค่าลิขสิทธิ์ก็ต้องถูกลงกว่านี้ อีกทั้งเมื่อนำราคามาเปรียบเทียบประเทศเพื่อนบ้าน ราคาของประเทศไทย ก็ยังสูงกว่ามาก
ขณะที่มีการอ้างว่าราคาแพงนั้น เป็นเพราะ หลักเกณฑ์รายการโทรทัศน์สําคัญที่ให้เผยแพร่ได้เฉพาะทางฟรีทีวี (Must Have) ของกสทช.นั้น มีการวิพากษณ์วิจารณ์กันในวงกว้างเช่นกัน ขณะที่กสทช.ไม่มีคำอธิบายในเรื่องหลักเกณฑ์ดังกล่าวแต่อย่างใด
ล่าสุดคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และนักวิชาการด้านสื่อ ได้ออกแถลงการณ์ เรื่องคัดค้านการนำเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.)มาสนับสนุน ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ดังนี้
1.หากกสทช. พิจารณาอนุมัติเงินสนับสนุนการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 นั่นหมายถึง การนำเงินจากบัญชีของกองทุน กทปส.ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมอย่างทั่วถึง ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรสื่อสาร การวิจัยและพัฒนาด้านกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ การเข้าถึงบริการกระจายเสียง บริการโทรทัศน์บริการโทรคมนาคมสำหรับผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ผู้มีความต้องการหลากหลายในสังคม การพัฒนาบุคลากรและองค์กรวิชาชีพ ตลอดจนสนับสนุนกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
2.แหล่งของเงินที่ กสทช. จะนำมาใช้ในกรณีนี้ได้ คือ เงินจากบัญชีที่มีวัตถุประสงค์เกี่ยวข้องกับกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ นั่นคือ บัญชีที่ 1 และบัญชีที่ 2 ของกองทุน กทปส.
3.บัญชีที่ 1 ของกองทุน กทปส. เป็นบัญชีหลักของกองทุน กทปส. ที่ต้องสนองตอบวัตถุประสงค์ของกองทุนทุกข้อ ส่วนบัญชีที่ 2 เป็นเงินสำหรับแผนงาน USO (Universal Service Obligation) มีวัตถุประสงค์หลักคือการสนับสนุนให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้มีความต้องการหลากหลายในสังคมได้เข้าถึงบริการ ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์อย่างทั่วถึงและเสมอภาค
4.ที่ผ่านมา กสทช. เคยให้การสนับสนุนเงินจากกองทุน กทปส. จำนวน 240 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนให้การกีฬาแห่งประเทศไทยซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดรายการกีฬาโอลิมปิก จำนวน 5 รายการ ได้แก่ การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น การแข่งขันโอลิมปิกเยาวชนฤดูหนาว 2020 ณ เมืองโลซาน สมาพันธ์รัฐสวิสการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน การแข่งขันโอลิมปิกเยาวชน ณ กรุงดาการ์ สาธารณรัฐเซเนกัล และเอเชียนเกมส์ 2022 ณ เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยให้เหตุผลและหลักการสนับสนุนว่าเป็นรายการที่มีความหลากหลายของชนิดกีฬา และมีหลายชนิดกีฬาที่ คนไทยเข้าร่วมแข่งขัน เข้าข่ายตามวัตถุประสงค์ของกองทุน กทปส. บัญชีที่ 1 และ 2 ได้
5.กรณีการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายที่แม้จะมีลักษณะที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกระจายเสียงและโทรทัศน์ ที่มุ่งหมายให้ประชาชนคนไทยได้รับชมรายการกีฬาฟุตบอล แต่ก็เป็นประเภทกีฬาเฉพาะกลุ่มที่มีคนไทยให้ความสนใจจำนวนกลุ่มหนึ่ง และคนไทยไม่ได้มีส่วนร่วมแข่งขันในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งนี้ด้วย จึงมิได้มีลักษณะที่เข้าข่ายตามวัตถุประสงค์ของกองทุน กทปส. บัญชีที่ 1 และ 2 ที่จะต้องสร้างและพัฒนาทรัพยากร สื่อสารให้เกิดประโยชน์สาธารณะ สร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์อย่าง ทั่วถึงของประชาชนคนไทยในทุกกลุ่ม นับเป็นการสูญเสียเงินจำนวนมากที่ควรใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะไปกับการ ถ่ายทอดสดเฉพาะฟุตบอลโลก 2022 ในระยะเวลา 1 เดือนเท่านั้น
6.ในเว็บไซต์ของกองทุน กทปส. ได้เผยแพร่มติที่ประชุมคณะกรรมการบริการกองทุน กทปส. ครั้งที่ 4/2555 เมื่อวันที่28 เมษายน 2565 (ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกหลังมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ กสทช.ชุดใหม่ และหลังจากนั้นในเว็บไซต์ไม่ได้มีการเผยแพร่มติที่ประชุมอีก) ได้ระบุสถานะเงินคงเหลือของกองทุน กทปส. บัญชีที่ 1 (รวม เงินประมูลคลื่นทีวีดิจิทัลและเงินทั่วไป) คงเหลือ 3,435.07 ล้านบาท ส่วนบัญชีที่ 2 คงเหลือ 504.27 ล้านบาท ในขณะที่ข้อมูลการรายงานข่าวของสำนักข่าวอิศรา เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2555 ระบุข้อมูลจากแหล่งข่าวใน กสทช. ว่าปัจจุบันสถานะเงินคงเหลือของกองทุน กทปส. ที่สามารถนำมาใช้กับกรณีนี้ได้ คงเหลือประมาณ 2,000 กว่าล้านบาทเท่านั้นซึ่งเห็นได้ว่างบประมาณในกองทุน กทปส.ในส่วนที่เกี่ยวกับกิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทัศน์ที่คงเหลืออยู่ไม่ใช่งบประมาณที่มีอยู่มาก ในขณะที่ปัจจุบันยังมีประชาชนจำนวนมาก
โดยเฉพาะเด็ก ผู้ พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส และผู้มีความต้องการหลากหลายในสังคมที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการกระจายเสียงและ บริการโทรทัศน์ได้ ตลอดจนปัญหาการขาดแคลนจำนวนและคุณภาพของสื่อกระจายเสียงและสื่อโทรทัศน์สำหรับ เด็กซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องมีการลงทุนเพื่อสร้างความมั่นคงของสังคมอย่างแท้จริง
ดังนั้น การพิจารณานำเงินจากกองทุน กทปส. ซึ่งเป็นเงินส่วนกลางเพื่อประโยชน์สาธารณะไปใช้สนับสนุนการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย จึงขัดต่อวัตถุประสงค์ของกองทุน กทปส. และมีโอกาสอย่างยิ่งที่จะกระทบ ต่อสภาพคล่องของเงินทุน ส่งผลกระทบสำคัญต่อโอกาสในการเข้าถึงบริการของกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมของคนไทยในวงกว้าง เกิดการหยุดชะงักของการวิจัยและพัฒนาทรัพยากรสื่อสารของประเทศ และจะส่งผล กระทบอย่างต่อเนื่องต่อการขาดโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคมของคนไทยทั้งประเทศในภาพรวมได้
ดังนั้น คณาจารย์จากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตลอดจนนักวิชาการด้านสื่อตามรายชื่อที่ได้ลงนามตามประกาศนี้จึงขอคัดค้านการนำเงินจากกองทุน กทปส. ไปใช้สนับสนุนการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 และเสนอให้การกีฬาแห่งประเทศไทยพิจารณาหาแนวทางความร่วมมืออื่นที่ไม่กระทบต่อผลประโยชน์สาธารณะ
พร้อมทั้งเรียกร้องให้คณะกรรมการ กสทช. และ กทปส. ชี้แจงถึงสถานะทางการเงิน ล่าสุดของกองทุน กทปส. รวมทั้งพิจารณาวาระนี้อย่างโปร่งใส เป็นธรรม คำนึงถึงการคุ้มครองผลประโยชน์สาธารณะ เพื่อหาทางออกของปัญหานี้โดยไม่กระทบต่อสาธารณะ และเป็นตัวแทนในการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพในการเข้าถึงบริการกระจาย เสียงและบริการโทรทัศน์ของภาคประชาชนวงกว้างเป็นสำคัญ

