“แอปเปิล” เปิดตัวหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ AirPods Pro และเริ่มวางจำหน่ายในตลาดประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 พ.ย.62 ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจากผู้ใช้งานในค่ายนี้เป็นอย่างมาก
หูฟังตระกูลนี้กลายเป็นหูฟังไร้สายที่ขายดีที่สุดในโลก ผู้คนทั่วโลกนิยมใช้งานในชีวิตประจำวันและใช้ควบคู่กับการออกกำลังกาย การตั้งค่าง่ายมาก ใช้เสียบหูและใช้งานได้เลย เสียงดี มีคุณสมบัติ Hey Siri เพื่อช่วยออกคำสั่งการใช้งานต่างๆ ได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น สั่งโทรออก สั่งเล่นเพลง ปรับระดับเสียง ถามทางไปทางไหนได้
AirPods Pro มีจุดเด่นที่สำคัญก็คือการใส่เทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน หรือ Noise Cancellation มาพร้อมกับดีไซน์ใหม่หมดรูปลักษณ์ต่างจาก AirPods รุ่น 2 มีก้านที่สั้นขึ้น ตรงปลายของหูฟังจะมีจุกยาง (Tip) เสียบหูเพื่อให้การสวมใส่เข้าไปรูหูได้แน่นกระชับในการใส่ ไม่เจ็บหู
หูฟังไร้่สายตัดเสียงรบกวนนี้เป็นแบบ Active Noise Cancellation วิธีการทำงานก็คือจะวัดเสียงรบกวนที่เข้ามา แล้วส่งคลื่นออกมาตัดเสียงนั้นออกไป ทำงานแบบ Active ตลอดเวลา ทำให้ไม่มีเสียงรบกวนจากภายนอก
รวมทั้งเทคโนโลยี Transparency หมดการทำงานขณะฟังเพลงแต่ยังได้ยินเสียงข้างนอกที่เข้ามาได้ เช่นในสถานีรถไฟฟ้า ในสนามบิน เราอยากฟังเพลง แต่เรายังอยากได้ยินเสียงประกาศจากสถานีรถไฟฟ้า หรือสนามบินด้วย โหมดนี้จะทำให้เราได้ยินเสียงข้างนอกโดยเสียงไม่ก้อง ไม่อื้อ ไม่ปวดหู เวลาเราพูดเสียงได้ยินเป็นปกติ
ในกล่องจะมียางที่เป็นทิป 3 ขนาดให้เลือกใช้ให้เหมาะสำกับขนาดใบหูของตน ใส่พอดี กระชับ ไม่หลวมจนเกินไป และไม่เจ็บ ความพิเศษคือยางหูฟังเจ้าอื่นจะยาวกว่ายื่นออกมา airpod จะสั้นนิดเดียวเวลาเสียบเข้ากับตัวairpod จะล็อกไว้ ข้อดีของสั้นคือสวมใส่สบาย ลมข้างนอกไหลเวียนผ่านมาเข้าออกเป็นธรรมชาติ ทำให้เสียง ไม่ก้อง ไม่อู้ ไม่เจ็บ ไม่ปวด เป็นตัวสำคัญ
สำหรับการใช้งานเริ่มต้นให้อัพ iOS เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดก่อน การเชื่อมต่อหูฟังผ่านบูลทูธ คลิกฟังก์ชั่น ears tip fit test เพื่อวัดความพอดีว่า จุกยางที่ใส่พอดีไหม จะเช็คเสียงออกมาว่า พอดีกับหูไหม ถ้าไม่พอดีให้ลองขยับ ถ้าไม่พอดีลองเปลี่ยนขนาดจุกยางใหม่ไปให้พอดี
จะมีไมค์ 2 ตัว วัดเสียงข้างนอกกับส่งเสียงเข้ามาข้างในด้วย ทนน้ำ ทนเหงื่อ ออกกำลังกายทนเหงื่อได้ ฝนตกวิ่งผ่านฝนได้ แต่ไม่แนะนำให้เอาลงไปว่ายน้ำหรือดำน้ำ
โดยการทำงานไมค์ตัวแรกวัดเสียงจากข้างนอกรอบๆ ตัวว่าเป็นเสียงระดับไหน อีกตัวรับเสียงภายในหูทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ที่แอปเปิลพัฒนาขึ้นมา เพื่อปรับระดับเสียงเพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก เช่นมีเสียงข้างนอกเข้ามาเป็น ไมค์ตัวข้างในจะส่งสัญญาณเป็นคลื่นออกมาเพื่อหักล้างกับเสียงรบกวนภายนอก ทำให้เสียงรบกวนหายไป จะได้ยินเฉพาะเสียงเพลง หรือบทสนทนาทางโทรศัพท์ที่เราใช้คุยอยู่
เรียกว่ามีเสียงรบกวเข้่ามา แล้วสร้างคลื่นขึ้นมาแทรกเพื่อลบเสียง ไม่ได้ปิดกั้นเสียงแต่สร้างคลื่นขึ้นมาแทรกมาหักล้างกัน
วิธีการเปลี่ยน mode รูปแบบการฟังจะเลือกฟังแบบ Noise Cancellation ตัดเสียงรบกวนจากภายนอก หรือจะฟังแบบ Transparency ต้องการฟังเสียงจากรอบด้านเข้ามาด้วย มี 3 วิธี คือตรงปลายก้านมีตัวรับคำสั่งกด จาก Airpods รุ่นเดิมจะใช้วิธีเคาะ แต่รุ่นใหม่ใช้วิธีกดหรือบีบค้างไว้เพื่อเปลี่ยนโหมดสลับไปมา เพียงบีบค้างไว้เท่านั้นเอง หรือจะเปลี่ยนบนไอโฟน เข้าไปคอนโทรลเซ็นเตอร์ ไปตรงบูลทูธ ไปตรงหูฟังและกด i เพื่อเข้าไปว่าอยู่ในโหมดไหน กดเลือกได้เลย รวมทั้งออกคำสั่งบน Apple Watch ได้
หัวใจสำคัญคือ ชิป h1 เป็นชิปที่ชาญฉลาดที่ประมวลผลทุกอย่างทำให้ทุกอย่างทำงานร่วมกันอย่างรวดเร็วไร้รอยต่อ
สรุปจากการทดลองใช้งานนับว่าตัดเสียงรบกวนได้ดี ขณะที่ใช้ฟังเพลงบนรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีใช้โหมด Transparency ฟังเสียงประกาศเป็นระยะได้ชัดเจน เสียงดีขึ้นหากเทียบกับรุ่นก่อนหน้าอาจจะมาจากโหมดตัดเสียงรบกวน
สำหรับผู้สนใจ ราคาขายในไทยค่อนข้างสูงถึง 9,490 บาท ส่วนรุ่นเดิมกับเคสชาร์จไร้สายราคาลงมาที่ 7,490 บาท มีให้เลือกแล้วแต่สะดวกเลย
