

- แม้ผู้ประกอบการแข่งกันอัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย
- ห้องชุดเหลือขายสร้างเสร็จมากกว่าความต้องการของตลาด
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ประจำไตรมาส 3 ปี 2563 ยังคงมีทิศทางลดลงต่อเนื่อง โดยดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 3 ปี 2563 มีค่าดัชนีเท่ากับ 153.1 จุด เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ส่วนดัชนีราคาห้องชุดลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยดัชนีราคาห้องชุดมีค่าดัชนีสูงสุดในช่วงไตรมาส 4 ปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ภายหลังจากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลาดอาคารชุดได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวตัวของกำลังซื้อ ทั้งจากผู้ซื้ออยู่อาศัยจริง นักลงทุน และผู้ซื้อที่เป็นคนต่างด้าว ทำให้ตลาดห้องชุดมีหน่วยเหลือขายสร้างเสร็จมากกว่าความต้องการของตลาด ดังนั้นผู้ประกอบการจึงมีการให้ส่วนลดและโปรโมชั่นจูงใจผู้ซื้อเพื่อเร่งรัดการตัดสินใจ ซึ่งส่งผลให้ราคาขายอาคารชุดสร้างใหม่มีทิศทางลดลงอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ดัชนีราคาห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขาย ในไตรมาส 3 ปี 2563 นี้ เมื่อแยกตามพื้นที่ พบว่า กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 154.7 จุด เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.1 % เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 145.2 จุด ลดลง 0.2 %เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
“รายการส่งเสริมการขายห้องชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในไตรมาสนี้ พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ 46.8% จะให้เลือกเป็นของแถม เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ รองลงมา 34.6% จะให้ผู้ซื้อเลือกเป็นส่วนลดเงินสด และ 18.6% จะช่วยผู้ซื้อจ่ายค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์”
ส่วนดัชนีราคาบ้านจัดสรรใหม่ (บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์) ที่อยู่ระหว่างการขาย ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 3 ปี 2563 มีค่าดัชนีเท่ากับ 128.1 เพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ดัชนีราคาบ้านจัดสรรลดลงเป็นไตรมาสที่ 2 โดยเป็นผลมาจากการที่ผู้ประกอบการหันมาเปิดขายโครงการใหม่ประเภทบ้านจัดสรรมากกว่าอาคารชุด ทำให้ปริมาณบ้านจัดสรรในตลาดเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้เมื่อจำแนกดัชนีราคาบ้านจัดสรรตามพื้นที่ พบว่า ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 127.1 เพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.2 % เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนในพื้นที่ปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 129.0 เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ส่วนดัชนีราคาบ้านเดี่ยว ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไตรมาส 3 ปี 2563 มีค่าดัชนีเท่ากับ 126.4 เพิ่มขึ้น 1.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 125.8 เพิ่มขึ้น 1.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 126.6 เพิ่มขึ้น 1.0 %เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับดัชนีราคาทาวน์เฮ้าส์ ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ไตรมาส 3 ปี 2563 มีค่าดัชนีเท่ากับ 130.0 เพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยกรุงเทพฯ มีค่าดัชนีเท่ากับ 128.2 เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.2 %เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนปริมณฑล มีค่าดัชนีเท่ากับ 132.0 เพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
“ส่วนรายการส่งเสริมการขายบ้านจัดสรรใหม่ที่อยู่ระหว่างการขายในไตรมาสนี้ พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ 35.4% จะให้ผู้ซื้อเลือกเป็นส่วนลดเงินสด รองลงมา 33.7% จะให้เลือกเป็นของแถม แถม เช่น เครื่องปรับอากาศ เฟอร์นิเจอร์ ผ้าม่าน ปั๊มน้ำ แท้งก์น้ำ ฯลฯ และ 30.9% จะช่วยผู้ซื้อจ่ายค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ และ/หรือ ฟรีค่าส่วนกลาง”