ราคาทองคำพุ่งต่อเนื่อง “วายแอลจี” แนะหากราคารักษาระดับยืนเหนือ 1,964-1,955 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รอขายทำกำไรได้



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ได้วิเคราะห์ว่า ราคาทองคําวานนี้ (27 ..) ทะยานขึ้น 38.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ท่ามกลางแรงเทขายดอลลาร์จากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องของ โควิด-19 ประกอบกับ วุฒิสมาชิกจากพรรครีพับลิกันได้เปิดตัวรายละเอียดแผนช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบจากการระบาดของ โควิด-19 รอบใหม่ที่มีวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งการคาดการณ์ว่าเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ จะกระตุ้นให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น จนนําไปสู่การอ่อนค่าของสกุลเงินเป็นปัจจัยหนุนทองคําเช่นกัน ประกอบกับความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ ยังคงอยู่ จึงกระตุ้นแรงซื้อทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มเติม

ทั้งนี้ สถานการณ์ทีดังกล่าวผลักดันให้ราคาทองคําพุ่งทะลุระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เดิมบริเวณ 1,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ที่เคยทําไว้ในปี 2554 จนสร้างระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่บริเวณ 1,981 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าวันนี้ (28 ..) ในตลาดเอเชีย ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองเพิ่ม 5.84 ตัน สู่ระดับ 1,234.65 ตัน ทําให้ปีนี้กองทุนSPDR ถือครองทองคําเพิ่มแล้วถึง 341.40 ตัน สะท้อนกระแสเงินทุนไหลเข้ากองทุน ETF ทองแข็งแกร่ง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการปรับตัวขึ้นของราคาทองคํา

อย่างไรก็ตามราคาทองคําสร้างระดับสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นแรงซื้อในระดับแข็งแกร่ง หากราคาทดสอบแนวต้านโซน 1,981-1,987 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ยังไม่สามารถผ่านได้อาจมีแรงขายทํากําไรสลับออกมาบ้างแต่ หากการปรับตัวลงยังคงจํากัด หรือไม่หลุดโซนแนวรับ 1,964-1,955 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลง เพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง คําแนะนําหากราคาทองคําสามารถรักษาระดับยืนเหนือบริเวณ 1,964-1,955 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง สามารถรอขายทํากําไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,981-1,987 ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่ถ้าฝ่าไปได้ให้รอขาย บริเวณแนวต้านถัดไป