- เผยยูเครนเสนอมีสถานะเป็น “กลาง” ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
- ไม่ร่วมเป็นพันธมิตรทางทหาร-ไม่ให้ใครมาตั้งฐานทัพ
- แลกรัสเซียรับประกันความมั่นคง-ข้อเสนอมีผลทันทีหลังหยุดยิง
นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน เผยว่า รัสเซียยินดีที่ยูเครนยื่นข้อเสนอเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อยุติความขัดแย้ง แต่ยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ถึงความคืบหน้าการเจรจาครั้งใหญ่ และทั้ง 2 ฝ่ายยังคงมีงานที่ต้องทำอีกมาก
ทั้งนี้ ในการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย ที่กรุงอิสตันบูล ของตุรกี เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะเจรจาสันติภาพของยูเครนได้ยื่นข้อเสนอการมีสถานะเป็นกลาง โดยระบุว่า ยูเครนจะไม่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางทหารกับประเทศใด และจะไม่ยินยอมให้ต่างชาติเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศ รวมถึงกระบวนการหารือเกี่ยวกับสถานะของไครเมีย ซึ่งจะใช้เวลา 15 ปี โดยข้อเสนอดังกล่าว จะมีผลบังคับใช้ต่อเมื่อมีการหยุดยิงโดยสิ้นเชิง เพื่อแลกกับการที่รัสเซียรับประกันความมั่นคงของยูเครน
นายเดวิด อาราคาเมีย เจ้าหน้าที่เจรจาสันติภาพของยูเครน กล่าวว่า ข้อตกลงรับประกันความมั่นคงจะมีเนื้อหาเช่นเดียวกับมาตรา 5 ขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งระบุว่า การโจมตีต่อสมาชิกประเทศใดประเทศหนึ่ง จะถือเสมือนการโจมตีต่อสมาชิกทุกประเทศ
นอกจากนี้ ยังได้เปิดเผยรายชื่อประเทศที่อาจเข้าร่วมข้อตกลงดังกล่าว ได้แก่ สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้แก่ สหรัฐฯ รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และจีน รวมทั้ง ตุรกี แคนาดา เยอรมนีอิตาลี โปแลนด์ อิสราเอล และประเทศอื่นๆ ที่มีความประสงค์จะเข้าร่วมข้อตกลงนี้
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงนี้จะต้องผ่านการทำประชามติของชาวยูเครน และการให้สัตยาบันของรัฐสภา รวมทั้งการรับรองของประเทศที่รับประกันความมั่นคงสำหรับยูเครน
ด้านนายโอเลคซานเดอร์ ชาลีย์ เจ้าหน้าที่เจรจาสันติภาพของยูเครนอีกรายหนึ่ง กล่าวว่า “ถ้าเราบรรลุข้อตกลงเหล่านี้ซึ่งเราถือว่าเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่สุด ยูเครนก็จะสามารถมีสถานะเป็นกลางอย่างถาวร โดยเป็นรัฐที่ปลอดนิวเคลียร์และไม่เป็นพันธมิตรทางทหารกับกลุ่มใด”
