- แม้ให้คำมั่นลดปฏิบัติการทางทหาร “อย่างมาก”
- ขณะที่อังกฤษ-สหรัฐฯไม่เชื่อรัสเซียทำตามที่พูด
- โฆษกกลาโหมสหรัฐฯชี้แค่ “กลับมาตั้งหลัก” ไม่ใช่ถอนทหาร
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ยูเครน เผยมีการระดมยิงปืนใหญ่ในพื้นที่รอบนอกกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน และเมืองเชอร์นิฮิฟ ทางตอนเหนือของประเทศ แม้รัสเซียให้สัญญาลดปฏิบัติการทางทหาร เพื่อเอื้อให้การเจรจาสันติภาพของทั้ง 2 ฝ่ายรุดหน้า
นายมิโคล่า โปโวรอซนิก รองนายกเทศมนตรีกรุงเคียฟแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติว่า “ค่ำคืนผ่านไปโดยมีแต่เสียงไซเรน และเสียงปืนจากการสู้รบรอบเมือง แต่ไม่มีการยิงปืนใหญ่อยู่ในเมือง โดยกรุงเคียฟชั้นใน ยังไม่ได้ถูกโจมตี”
ขณะเดียวกัน นายเวียเชสลาฟ เชาส์ ผู้ว่าการแคว้นเชอร์นิฮิฟ ระบุว่า ไม่เห็นว่ารัสเซียจะลดปฏิบัติการทางทหารอย่างที่ให้สัญญาไว้ ชาวยูเครนไม่เชื่อในคำมั่นของรัสเซียที่บอกว่าจะลดปฏิบัติการทางทหารลง
“การลดปฏิบัติการทางทหารในเมืองเชอร์ฮินิฟ เป็นเพียงคำกล่าวอ้างจากศัตรูที่โจมตีเมืองนิซนี ซึ่งรวมถึงการโจมตีทางอากาศ และตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา พวกเขายังโจมตีเมืองเชอร์นิฮิฟอย่างต่อเนื่อง”
ด้านนายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯไม่มั่นใจในคำมั่นสัญญาของรัสเซียที่ว่าจะลดปฏิบัติการทางทหารในกรุงเคียฟ และเมืองเชอร์นิฮิฟ การที่รัสเซียถอนกำลังทหารออกจากกรุงเคียฟเป็นการ “กลับมาตั้งหลัก” ไม่ใช่การถอนทหารอย่างแท้จริง และอาจเป็นไปได้ที่จะใช้กำลังโจมตีครั้งใหญ่ในหลายพื้นที่ “เราไม่ควรปล่อยให้รัสเซียหลอกว่าจะถอนกำลังทหารออกจากกรุงเคียฟและเมืองเชอร์นิฮิฟ”
ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของนายเคอร์บีสอดคล้องกับที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่แสดงความไม่เชื่อมั่นต่อคำสัญญาของรัสเซียว่า “ผมอ่านเกมของรัสเซียไม่ออก จนกระทั่งได้เห็นสิ่งที่พวกเขาทำ เราต้องรอดูว่า พวกเขาจะทำในสิ่งที่ให้คำสัญญาไว้หรือไม่”
การแสดงความเห็นของนายเคอร์บีมีขึ้น หลังจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงเมื่อวันที่ 29 มี.ค.ว่า รัสเซียจะลดปฏิบัติการทางทหาร “ลงอย่างมาก” รอบกรุงเคียฟ รวมทั้งเมืองเชอร์นิฮิฟ เพื่อเพิ่มความไว้วางใจระหว่างรัสเซียและยูเครน และเพื่อเอื้ออำนวยต่อการเจรจาสันติภาพในครั้งต่อไปของทั้งสองฝ่าย
ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า กระทรวงกลาโหมอังกฤษ เปิดเผยว่า กองกำลังทหารรัสเซียบางหน่วยที่เผชิญความสูญเสียอย่างหนักในยูเครน ต้องถอยร่นกลับประเทศและเบลารุส หลังรัสเซียให้สัญญาว่าจะลดปฏิบัติการทางทหารรอบกรุงเคียฟและเมืองเชอร์นิฮิฟ เพราะมีแรงกดดันจากความยากลำบากในการเดินทาง และการจัดกำลังพลในยูเครน
ส่วนประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน แสดงความคลางแคลงใจต่อข้อเสนอของรัสเซียที่มีขึ้นในระหว่างการเจรจา ณ นครอิสตันบูล เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งที่ขณะนี้ล่วงเข้าสู่สัปดาห์ที่ 5 แล้ว
กองกำลังรัสเซียได้ระงับปฏิบัติการโจมตีบริเวณพื้นที่แนวหน้าส่วนใหญ่ โดยนักวิเคราะห์บางรายมองว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ที่รัสเซียให้คำมั่นที่จะลดระดับการต่อสู้นั้น ครอบคลุมพื้นที่ที่รัสเซียเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แม้ว่าประชาชนยังคงติดอยู่ตามเมืองต่างๆ ที่ถูกโอบล้อมในภาคใต้และตะวันออก
