“รัฐ” โหมโรมแก้หนี้ครัวเรือน ด้วยมหกรรมร่วมใจแก้หนี้“มีหนี้ต้องแก้ไข



  • แก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่เดิม
  • สร้างอาชีพหรืออาชีพเสริม
  • ให้คำปรึกษามีหนี้ต้องใช้

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 4-6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 จะมีการจัดงาน “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 1 ณ Hall 5 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น.. โดยงานมหกรรมครั้งนี้เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการแก้หนี้ครัวเรือน

ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบทำให้ประชาชนและผู้ประกอบธุรกิจขาดรายได้และศักยภาพในการชำระหนี้ต่ำลง ถึงแม้ว่าในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดได้คลี่คลายลงแล้วและสถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น แต่ปัญหาภาระหนี้ของประชาชนยังคงอยู่ ดังนั้น กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และหน่วยงานพันธมิตรอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 18 หน่วยงาน จึงได้ร่วมมือกันจัด “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ขึ้น โดยในงานจะมีกิจกรรมประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่

(1) การแก้ไขปัญหาหนี้สินที่มีอยู่เดิม ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขหนี้ การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือการปรับเงื่อนไขการชำระนี้ เพื่อช่วยผ่อนปรนภาระหนี้ของประชาชนและผู้ประกอบการให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง เช่น

• การปรับเงื่อนไขการผ่อนชำระ โดยลดภาระค่างวดและแบ่งตัดเงินต้นสูงสุดร้อยละ 20 หรือ

หากเป็นลูกหนี้สถานะ NPL และสามารถชำระหนี้ปิดบัญชีได้จะได้รับการลดดอกเบี้ยค้างทั้งหมด โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย

• มาตรการแก้หนี้สินเชื่อบ้าน สำหรับลูกหนี้สถานะ NPL จะได้รับการลดเงินงวดผ่อนชำระ 

พร้อมกับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษ ระยะเวลานาน 2 ปี โดยเดือนที่ 1 – 10 ผ่อนชำระเพียงงวดละ 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ยเท่ากับร้อยละ 0 ต่อปี เดือนที่ 11 – 21 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.99 – 2.00 ต่อปี และเดือนที่ 22-24 อัตราดอกเบี้ยร้อยละ MRR-2.00 ต่อปี โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์

• มาตรการชำระดีมีคืนไม่เกิน 2,000 บาท สำหรับลูกหนี้ปกติ และลดดอกเบี้ยร้อยละ 50 สำหรับลูกหนี้ NPLs และส่วนลดค่าธรรมเนียมต่าง ๆ โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

• มาตรการเอ็กซิมสนับสนุนมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ ยืดหนี้สูงสุด 12 เดือน ผ่อนดีมีคืนดอกเบี้ยร้อยละ 2 โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย

(2) การสร้างรายได้ผ่านการสร้างอาชีพหรืออาชีพเสริม เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนและผู้ประกอบการ ให้เพียงพอต่อการชำระหนี้ ซึ่งจะสามารถลดปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนได้ในระยะยาว และสามารถขอรับสินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือเป็นแหล่งทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม เช่น

• สินเชื่อแก้หนี้เพิ่มทุน สำหรับผู้มีรายได้ประจำ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้าแม่ค้า หาบเร่แผงลอย ให้กู้ไม่เกินรายละ 20,000 บาท ดอกเบี้ยต่ำแบบคงที่ร้อยละ 0.35 ต่อเดือน ไม่ต้องมีหลักประกัน ปลอดชำระเงินต้น 6 เดือน ผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 2 ปี โดยธนาคารออมสิน

• สินเชื่อเพื่อ SMEs ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท ดอกเบี้ยเริ่มต้น

ร้อยละ 5.5 ต่อปี  ผ่อนนานสูงสุด 12 ปี ปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 24 เดือน โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย

• สินเชื่อ Krungthai SME Smart Shop วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น MRR 

ต่อปี โดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)

• สินเชื่อเพื่อผู้ส่งออกป้ายแดง เพื่อช่วยเหลือ Start Up ให้ส่งออก วงเงินสูงสุด 1 ล้านบาท 

ใช้บุคคลค้ำประกัน และสินเชื่อเอ็กซิมสร้างธุรกิจเพื่อบุคคลธรรมดา วงเงินสูงสุด 2 ล้านบาทต่อราย ใช้หนังสือค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม โดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย

• สินเชื่อที่อยู่อาศัยอัตรากำไรพิเศษร้อยละ 1.99 ต่อปี ระยะเวลา 6 เดือนแรก โดยธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย

• โครงการค้ำประกันสินเชื่อรายสถาบันการเงินระยะที่ 7 วงเงินค้ำประกันสินเชื่อ สูงสุดไม่เกิน 100 

ล้านบาทต่อราย ระยะเวลาค้ำประกันสินเชื่อสูงสุด 10 ปี ยกเว้นค่าดำเนินการค้ำประกัน โดยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม

(3) การสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนด้วยการส่งเสริมทักษะในการประกอบอาชีพ เพื่อให้ประชาชนสามารถมีรายได้ที่เพียงพอและมั่นคง และการเสริมสร้างความรู้ทางการเงิน เพื่อสร้างความตระหนักถึงการวางแผนทางการเงินและส่งเสริมการบริหารจัดการด้านการเงินอย่างถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนเข้าใจถึงการเป็นหนี้และ

มีการวางแผนทางการเงิน ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนได้อย่างยั่งยืน เช่น

• การส่งเสริมการออมผ่านเงินฝากเผื่อเรียกพิเศษเพื่อการเกษียณ 10 ปี ดอกเบี้ยแบบ Step up สูงสุดร้อยละ 9 ต่อปี ในปีที่ 10 คิดเป็นดอกเบี้ยเฉลี่ยร้อยละ 3.45 ต่อปี โดยธนาคารออมสิน

• การให้คำปรึกษาทางออกให้ธุรกิจโดยโค้ชมืออาชีพ โดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย การให้บริการคำปรึกษาทางการเงินผ่าน บสย. F.A. Center การให้คำปรึกษาผ่านโครงการหมอหนี้เพื่อประชาชนโดยธนาคารแห่งประเทศไทย การให้ข้อเสนอแนะในการประกอบธุรกิจโดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

• การให้ความรู้ทางการเงินโดยกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กองทุนการออมแห่งชาติ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

​นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจตลอดงาน เช่น การตรวจข้อมูลเครดิตโดยบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด การขายสินทรัพย์ NPA ของสถาบันการเงิน บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด และบริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด รวมทั้งกิจกรรมเสวนาให้ความรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจโดยผู้ทรงคุณวุฒิตลอดงาน