

“โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาบดีแห่งสหรัฐโพสต์ข้อความผ่าน Twitter ว่า “แอนดรูว์ คูโอโม” ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ค ควรใช้เวลา “ทำ” มากขึ้น และใช้เวลา“ บ่น” น้อยลง ออกและทำงานให้เสร็จ หยุดพูด! เราสร้างเตียงในโรงพยาบาลหลายพันเตียงที่คุณไม่ต้องการหรือใช้ ให้เครื่องช่วยหายใจจำนวนมาก ช่วยเรื่องการตรวจเชื้อซึ่งควรทำ เราให้เงินกับนิวยอร์คมาก และช่วยเหลืออุปกรณ์มากกว่ารัฐอื่น ซึ่งเหล่าคนทำงานที่ยิ่งใหญ่นี้ไม่เคยได้ยินคุณพูดขอบคุณ ตัวเลขผู้ป่วยของคนไม่ดี พูดให้น้อยลงทำให้มากขึ้น น่าขัน “คูโอโม่”ตัองการเคร่องช่วยหายใจถึง 40,000 เครื่อง เราให้เขาเล็กน้อยและมันก็มีมากมาย สหรัฐควรมีในสต็อก
ด้านแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ค ตอบกลับในกรณีดังกล่าวว่า ถ้าเราทำได้ เขากล่าวว่า สิ่งแรกของทั้งหมด ถ้าเขากำลังนั่งดูทีวีอยู่ บางทีเขาควรละลุกขึ้นไปทำงานใช่ไหม เขาระบุด้วยว่า เอาอารมณ์และการเมืองออกไปจากสิ่งเหล่านี้และอีโก้ส่วนตัว “ทรัมป์” ไม่สุภาพ ในการนำคนออกจากศูนย์จาวิตส์ 800 คน ซึ่งเป็นผู้ป่วย และชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลกลางเห็นด้วยกับโรงพยาบาลที่ต้องการเตียง ความต้องการเครื่องช่วยหายใจของรัฐนิวยอร์คนั้นขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ของ “ทรัมป์” และศูนย์ CDC
สำหรับสถานการณ์ของรัฐนิวยอร์ค เมื่อคืนวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ ผู้เสียชีวิตแล้ว 12,822 ราย เพิ่มขึ้น 630 ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง
มีรายงานว่า ทาง “ทรัมป์” ต้องการให้มีการเปิดระบบเศรษฐกิจด้วยการออกคู่มือการเปิดเป็น 3 เฟส ค่อยๆ ทยอยปลดล็อกดาวน์ แต่คำสั่งการยกเลิกนั้นเป็นของผู้ว่าการรัฐซึ่งหลายคนไม่เห็นด้วย โดย “คูโอโม” ถึงกับออกมาโวย “ทรัมป์” ทำตัวเสมือนกษัตริย์ที่มีอำนาจเด็ดขาด ซึ่งขัดต่อบทบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 10 ตามรัฐธรรมนูญสหรัฐ ที่ระบุชัดเจนว่าประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดตามที่เขาอ้าง พร้อมทั้งระบุว่าจะไม่ทำตามคำสั่งให้เปิดเศรษฐกิจนิวยอร์คเร็วเกินไป จนทำให้ประชาชนในรัฐเสี่ยงติดโรคระบาดอย่างหนัก และจะยังเข้มข้นกับมาตรการป้องกัน ด้วยการประกาศล็อกดาวน์อย่างช้าไปจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม และมาตรการเข้มข้นต้องสวมหน้ากากเมื่อเข้าอยู่ใกล้รัศมี 2 เมตร
สำหรับรัฐที่ประกาศเปิดระบบเศรษฐกิจเป็นรัฐแรกคือรัฐเท็กซัส จะประกาศวันที่จะเริ่มมาตรการผ่อนคลายในสัปดาห์หน้า ขณที่รัฐมิชิแกน โดย เกร็ตเชน วิตเมอร์ กล่าวว่า รัฐมิชิแกนมีเป้าหมายจะเปิดระบบเศรษฐกิจเริ่มวันที่ 1 พฤษภาคม