

- เช็ครายชื่อทบทวนสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.64 เป็นต้นไป
- เติมเงินในระบบเศรษฐกิจแล้วกว่า 205,897 ล้านบาท
- ส่วนมากยื่นทบทวนภาษีใหม่
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับโครงการเราชนะ จะประกาศผลการทบทวนสิทธิ์สำหรับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (กลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน) ที่ไม่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติและได้แสดงความประสงค์ ซึ่งขอทบทวนสิทธิ์ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ระหว่างวันที่ 6 มีนาคม – 13 พ.ค.2564 ตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. 2564 เป็นต้นไป ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com หรือ Call Center ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) หมายเลขโทรศัพท์ 0-2111-1122
ทั้งนี้ผู้ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจะได้รับ การโอนวงเงินสิทธิ์ครั้งแรก จำนวน 8,000 บาท ในวันที่ 22 พ.ค. 2564 และจะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ที่รัฐบาลสนับสนุนเพิ่มเติมอีก จำนวน 1,000 บาท ในวันที่ 28 พ.ค. 2564 รวม 9,000 บาท โดยสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ได้ที่ผู้ประกอบการร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.- 30 มิ.ย.2564
นอกจากนี้สำหรับประชาชนประชาชนกลุ่มที่แสดงความประสงค์ขอทบทวนสิทธิ์ โดยได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษี 2563 ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของกรมสรรพากรภายในเวลาที่กำหนด รวมถึงกรณีที่ผลการทบทวนสิทธิ์ในกรณีอื่น ๆ ที่อาจคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง สามารถตรวจสอบผลการทบทวนสิทธิ์ใหม่อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค. 2564 เป็นต้นไป ทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com หรือ Call Center ของธนาคารกรุงไทยฯ หมายเลขโทรศัพท์ 02-111-1122
สำหรับการใช้จ่ายในโครงการ “เราชนะ” มีผู้ได้รับสิทธิ์แล้ว รวมทั้งสิ้น 32.9 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 205,897 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.2564 เป็นต้นมา จำนวน 73,954 ล้านบาท 2.ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไป จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. 2564 เป็นต้นมา จำนวน 116,258 ล้านบาท และ 3.ประชาชน กลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.4 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.2564 เป็นต้นมา จำนวน 15,685 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ใช้จ่ายจนครบวงเงินสิทธิ์ จำนวน 7,000 บาท แล้ว จำนวน 25.6 ล้านคน ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนมากผู้ที่ยื่นทบทวนสิทธิ์ในโครงการ “เราชนะ” รอบนี้ เป็นผู้ที่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2563 ให้สรรพากรตรวจสอบ เนื่องจากเป็นผู้มีรายได้พึงประเมินไม่เกิน 300,000 บาท ซึ่งต้องได้รับสิทธิ์ในโครงการเราชนะ แต่ปรากฏว่าระบบระบุว่าไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิ์ จึงยื่นภาษีรอบปีปัจจุบันให้กรมสรรพากรตรวจสอบเพื่อส่งข้อมูลมายังสศค.ให้อนุมัติสิทธิ์ในโครงการ
