- เผยอัตราเงินเฟ้อที่ 3.5% ของออสเตรเลีย ก็ถือมีเหตุผลรองรับเพียงพอ ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ชี้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น สร้างประโยชน์ให้กับออสเตรเลีย
- ลั่นราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น จะกัดกร่อนเงินในภาคครัวเรือน เพิ่มต้นทุนสำหรับธุรกิจจำนวนมาก
นายฟิลิป โลว์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยว่า วันนี้ (9 มี.ค.65) RBA จะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของออสเตรเลียในปีนี้ เพราะความไม่แน่นอนเรื่องเงินเฟ้อและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ สำนักข่าวซินหัวเปิดเผยถึงถ้อยแถลงของนายโลว์ว่า เมื่อพิจารณาถึงอัตราเงินเฟ้อที่ 3.5% ของออสเตรเลียแล้วก็ถือได้ว่ามีเหตุผลรองรับเพียงพอ ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงต่อไปของปีนี้
“ผมยอมรับว่า มีความเสี่ยงหากรอคอยนานจนเกินไป โดยเฉพาะท่ามกลางภาวะตื่นตระหนกด้านอุปทานควบคู่กับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่อยู่ในระดับสูง แต่หากดำเนินการเร็วเกินไปก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน” นายโลว์ กล่าว
ทั้งนี้ธนาคารเอกชนรายใหญ่ของออสเตรเลียหลายแห่ง รวมถึงคอมมอนเวลธ์ แบงก์ ออฟ ออสเตรเลีย (CBA) คาดการณ์ว่า RBA จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกภายในช่วงกลางปีนี้
นายโลว์ กล่าวด้วยว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้นจะสร้างประโยชน์ให้กับออสเตรเลีย อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น 40% แล้วนับตั้งแต่ต้นเดือน ก.พ.
“ออสเตรเลียอยู่ในสถานะที่แตกต่างออกไป เพราะเราส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ที่ราคาแพงขึ้นมาก” นายโลว์ กล่าว
นายโลว์ กล่าวเสริมด้วยว่า แม้ผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ของออสเตรเลียจะได้กำไร แต่ต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น ก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชนชาวออสเตรเลียเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น จะกัดกร่อนเงินในกระเป๋าของภาคครัวเรือน, เพิ่มต้นทุนสำหรับธุรกิจจำนวนมากและขัดขวางการใช้จ่ายในบางพื้นที่
