- “รมว.พิพัฒน์” จัดเต็มงานเลี้ยงส่ง รัฐมนตรีท่องเที่ยวพร้อมคณะทำงานด้านการท่องเที่ยวเอเปค
- โชว์ศักยภาพ “ปีท่องเที่ยวไทย65-66” รวมพลังไทยกับเอเชียผนึกสร้างอุตฯท่องเที่ยว
- เน้นคุณค่าเติบโตยั่งยืน และมีส่วนร่วมสานฝันยุทธศาสตร์ชาติ
- ระดม 4 ภาค โชว์พลัง ซอฟท์ เพาเวอร์ 5 สัมผัส “รูป-รส-สัมผัส-กลิ่น-เสียง”
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ได้จัดงานเลี้ยงส่งการประชุมคณะทำงานด้านการท่องเที่ยวเอเปค ครั้งที่ 60 และการประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวเอเปค ครั้งที่ 11 พร้อมทั้งนำเสนอเรื่องประเทศไทยจัดทำปี Visit Thailand Year ระหว่างปี 2565-2566 ตั้งเป้าหมายจะพลิกฟื้นภาคการท่องเที่ยวไทยทั้งระบบอย่างสมดุลทุกมิติ เพื่อสร้างประสบการณ์การเดินทางที่มีความหมายและทรงคุณค่าให้กับนักท่องเที่ยว หรือ Meaningful Travel
ส่วนการจัดการประชุมเอเปคด้านการท่องเที่ยว พ.ศ.2565 ประเทศไทยได้จัดคู่ขนานต่อเนื่อง 1 สัปดาห์ ระหว่าง 14-20 สิงหาคม 2565 โดยใช้โอกาสนี้แสดงศักยภาพและความพร้อมการท่องเที่ยวไทย ตอกย้ำความเชื่อมั่น และแสวงหาความร่วมมือจากสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปค ผนึกความร่วมมือกันสร้างอุตสาหกรรมโดยเน้นคุณค่า มีความสามารถในการปรับตัว เติบโตอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วม (Rebuilding High Value Tourism Industry with Resilience, Sustainability and Inclusive Growth)” ตามวิสัยทัศน์แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 3 พ.ศ. 2566 – 2570
ภายในงานได้นำเสนอประสบการณ์ความงามของวิถีไทยผ่าน 5 สัมผัส ซึ่งเป็นจุดแข็งของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้แก่
สัมผัสที่ 1 “รูป” เลือกใช้บ้านไทยโบราณ ปาร์ค นายเลิศ สะท้อนถึงวิถีไทยอันงดงาม ควบคู่กับการตกแต่งสถานที่ด้วยดอกไม้งานฝีมือ นำมาสร้างคุณค่าได้พร้อมกับเพิ่มรายได้ให้ชุมชนผู้ค้าดอกไม้ ซึ่งเป็นเกษตรกรผู้ปลูกจาก ชุมชนราชบุรี สวนไม้ใบชุมชนปทุมธานี ฟาร์มกล้วยไม้และดอกไม้บุญตาจังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรสาคร
สัมผัสที่ 2 “รส” อาหารคาว หวาน เครื่องดื่ม ไทย หนึ่งในพลังซอฟท์ เพาเวอร์ เลือกใช้วัตถุดิบจากชุมชนรวมเข้ากับงานฝีมือคนไทยมีคุณค่ายั่งยืนทั่วโลกให้การยอมรับตลอดมา
สัมผัสที่ 3 “กลิ่น” ของสมุนไพรไทยอัตลักษณ์หนึ่งเดียวของโลก อันเกิดจากการพัฒนาองค์ความรู้ชุมชนสู่คุณค่าในเวทีโลก ทั้ง กลิ่นมะม่วง ชามะตูม และสายไหม
สัมผัสที่ 4 “เสียง” พลังเครื่อดนตรีไทย ผสมผสานระหว่างบทเพลงไทยกับสากลได้อย่างลงตัว สร้างคุณค่าของดนตรีไทยติดอยู่ในกระแสโลกมาจนถึงทุกวันนี้
สัมผัสที่ 5 “ความเป็นมิตร” สัมผัสได้ถึงอัธยาศรัยไมตรีคนไทยที่คนทั่วโลกสัมผัสได้ ผ่านการ แสดงหุ่นกระบอกคุณค่าไทยสร้างความแตกต่างไม่เหมือนใครในโลก
เรื่อยไปจนถึงการโชว์ “ศิลปวัฒนธรรมไทย” เพื่อให้ผู้แทนเขตเศรษฐกิจรู้จักความเป็นไทยอย่างลึกซึ้งในช่วงข้ามคืนทั้ง 4 ภาค ประกอบด้วย
“ภาคกลาง” โชว์ศิลปะมวยไทย ฉายภาพวิถีชีวิตริมฝั่งคลอง พร้อมบทเพลงโดยวงประสานเสียง สวนพลู คอรัส ในช่วงเรียกน้ำย่อย
“ภาคใต้ “นำเสนอแหล่งอารยธรรม ความงามของขุนเขาและท้องทะเลไว้บนอาหารจานหลัก ด้วยวัตถุดิบปลาจากทะเลไทย เคล้าเสียงดนตรีจาก Nutty ณัชยา และวง Melodic Corner จากเวที International Jazz & Blue Festival 2022
“ภาคอีสาน” บอกเล่าเรื่องราวภูมิปัญญาไทยโด่งดังไกลไปทั่วโลกด้วย E-Sarn Spirit Fashion Show บนผืนผ้าไทยงานฝีมือชุมชนชาวอีสานได้หลอมรวมดีไซน์ที่ร่วมสมัย ทำให้ผ้าไทยมีชีวิตสู่สายตาชาวโลก
“ภาคเหนือ” นำเสนอศิลปะวัฒนธรรมล้านนา ด้วยการแสดงชุด “ล้านนามหรสพ” โดยรวมการแสดงศิลปวัฒนธรรมทั้งหมดระหว่างเสิร์ฟของหวานพื้นเมืองเหนือ
ตลอดการเป็นตัวแทนประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเปค ปี 2565 ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้เกี่ยวข้องทุกองค์กร ได้จัดทำทุกรายละเอียดเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคนได้อิ่มท้องอิ่มใจ อิ่มอร่อยทั้งรสชาติอาหาร วัฒนธรรม ดนตรี อัธยาศรัยไมตรี สร้างความประทับใจให้ไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางคที่นักเดินทางทั่วโลกจะต้องเลือกเดินทางมาท่องเที่ยวสักครั้ง
เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen
