- ใช้วัคซีนพาสปอร์ตใน 27 ประเทศให้ทันในช่วงซัมเมอร์นี้
- หลังจาก อิสราเอลและจีนมีวัคซีนพาสปอร์ตแล้ว
- ขณะที่อีกกว่า 30 ประเทศกำลังพิจารณาการใช้
- ส่วนไทยเร่งศึกษา “วัคซีนพาสปอร์ต”10 ประเทศอาเซียน
หลังจาก พ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ออกมาให้ข้อ วัคซีนพาสปอร์ต” ของไทย ดำเนินการโดยโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (ไฮแทป) ศึกษาว่าหากจะต้องมีการเดินทาง และฉีด “วัคซีนโควิด19” แล้วยังต้องตรวจโรคก่อนเดินทางหรือไม่ จะต้องเดินทางภายในกี่เดือน กี่ประเทศรับรอง ซึ่งเริ่มทำการศึกษาวิจัยแล้วใน 10 ประเทศอาเซียน อีก 1-2 เดือน ไฮแทปจะมีข้อมูลเบื้องต้นรายงานว่าเมื่อศึกษากับ 10 ประเทศอาเซียนแและประเทศไหนมีข้อกำหนดแบบไหนอย่างไรบ้าง
ทั้งนี้ “วัคซีน พาสปอร์ต”เป็นเอกสารหรือใบรับรองทางการแพทย์ ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดกันว่าจะเริ่มมีการใช้งานอย่างเป็นทางการเมื่อไร หลังจากที่หลายๆ ประเทศได้เริ่มฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ไปเรียบร้อยแล้ว เพื่อใช้ไปเป็นเอกสารยืนยันกิจกรรมการเดินทางระหว่างประเทศได้โดยไม่ต้องกักตัวหรือใช้เวลากักตัวเพียงไม่กี่วัน หลังจากถูกปิดกั้นลงเนื่องจากการป้องกันการแพร่ระบาด
‘จีน-อิสราเอล’ เริ่มใช้ก่อนช่วยการเดินทางให้ง่ายขึ้น
สำหรับประเทศที่ได้เริ่มดำเนินการแล้วคือประเทศอิสราเอลและประเทศจีน โดยล่าสุดอิสราเอลเป็นประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนสูงที่สุดอันดับหนึ่งของโลกโดยมีการฉีดไปแล้วสัดส่วน 110 คนต่อ 100 คน ซึ่งหมายความว่าประชากรทั้งประเทศฉีดวัคซีนโดสแรกไปเรียบแล้วและส่วนหนึ่งได้ฉีดโดสที่สองไปเรียบร้อยแล้ว
ที่ผ่านมา อิสราเอลได้เปิดดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ พร้อมใช้งาน ‘กรีนพาส’ (Green Pass) เพื่อยกเลิกข้อจำกัดบางประการสำหรับผู้ที่รับวัคซีนแล้ว แต่ยังคงคำสั่งห้ามบางส่วนสำหรับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน โดยประะชาชนที่ฉีดวัคซีนแล้วสามารถรับสถานะกรีนพาสบนแอปพลิเคชันที่จัดทำโดยกระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอล
สำหรับจีนเป็นประเทศในอันดับที่ 16 ที่มีการฉีดวัคซีน โดยฉีดไปแล้วในสัดส่วน 4.5 คนต่อประชากร 10 คน โดยมีรายงานเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมาว่า ทางการจีนได้เริ่มโครงการ “วัคซีนพาสปอร์ต” ของชาวจีน เป็นใบรับรองแพทย์ที่มีข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด และผลการตรวจโควิดของประชาชน ซึ่งมาในรูปแบบคิวอาร์โค้ด บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย “วีแชท” (Wechat) สามารถสแกนเพื่อที่จะดูรายละเอียดการฉีดวัคซีนและ ผลตรวจโควิดได้เลย
ทางการจีนระบุว่า วัคซีนพาสปอร์ตนี้สร้างขึ้นเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก และทำให้สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ง่ายขึ้นและเป็๋นเวอร์ชั่นแรกของโลกที่มีการเริ่มใช้งาน เพื่อสำหรับการเดินทางข้ามประเทศ ซึ่งมีเพียงชาวจีนเท่านั้นที่เริ่มใช้งานกันและยังไม่ได้บังคับใช้ทั่วประเทศ
‘อียู’ เสนอแนะให้ใช้ใน 27 ประเทศร่วมก่อนถึงฤดูท่องเที่ยว
ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา สหภาพยุโรป (อียู) โดยคณะธิการยุโรปได้มีข้อเสนอแนะว่าการใช้ “วัคซีน พาสปอร์ต” เป็นใบรับรองเพื่อให้พลเมืองในอียูกว่า 27 ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วสามารถเดินทางไปทั่วยุโรปได้ขึ้นในช่วงฤดูร้อนซึ่งจะเริ่มต้นฤดูในช่วงเดือนมิถุนายนมี่จะถึงนี้
ทางอียูเรียก วัคซีน พาสปอร์ต ว่า Digital Green Certificate จะออกรับรองการฉีดการวัคซีน, ผลการตรวจเชื้อโควิด -19 หรือไม่กับผู้ป่วยที่หายจากการรักษาแล้ว
‘อัวร์ซูลา แกร์ทรูท ฟ็อน แดร์ ไลเอิน’ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า ด้วยใบรับรองนี้เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้ประเทศสมาชิกมีเสรีภาพในการเดินทางอย่างปลอดภัยด้วยความรับผิดชอบและไว้วางใจ”
ในการดำเนินการต่อไปข้อเสนอของคณะกรรมาธิการยุโรปจะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภายุโรปและรัฐสมาชิก 27 ประเทศ
ใบรับรองดังกล่าวจะใช้ได้กับสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศและอาจรวมถึงนอร์เวย์, ไอซ์แลนด์และสวิตเซอร์แลนด์เจ้าหน้าที่ของยุโรปกล่าว
“เราทุกคนต้องการให้ฤดูกาลท่องเที่ยวเริ่มต้นขึ้นเราจะสูญสิ้นไปอีกฤดูไปไม่ได้” เจ้าหน้าที่อาวุโสอียูกล่าว
โดยลำดับความสำคัญของ วัคซีน พาสปอร์ตนี้คือการเปิดใช้งานการเดินทางภายในทวีปยุโรป ขณะที่ผู้ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนจะยังคงสามารถเดินทางได้ตามมาตรการที่เข้มงวดขึ้นเช่นการจำกัดการเดินทางที่ไม่จำเป็นแต่ยังช่วยให้รัฐสมาชิกมีโอกาสปรับมาตรการด้านสาธารณสุขที่มีอยู่
อังกฤษศึกษาพบมีกว่า 30 ประเทศทำแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการ
ขณะที่การเดินทางไปสหราชอาณาจักรไม่ได้ระบุไว้ในข้อเสนอ นอกจากนี้สหราชอาณาจักรกำลังตรวจสอบวิธีการใช้ วัคซีน พาสปอร์ต สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศและภายในประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า Ada Lovelace Institute ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนในกรุงลอนดอน กำลังติดตามข้อมูลวัคซีน พาสปอร์ตทั่วโลกและมีรายชื่อมากกว่า 30 ประเทศกำลังใช้และกำลังพิจารณาการใช้
ตัวอย่างเช่นจีนเปิดตัวไปแล้วเมื่อวันที่ 8 มีนาคม สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำลังออกวัคซีน พาสปอร์ตที่เรียกว่า “COVID-19 Immunity Passports” และประเทศฟิลิปปินส์ได้เสนอที่จะให้วัคซีน พาสปอร์ตแก่ชาวฟิลิปปินส์ทุกคน
บริษัทเอกชนแห่งบางแห่งได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการเรื่องนี้ด้วยตนเอง เช่นสายการบินบริติช แอร์เวยส์ และ ไรอันแอร์ ได่เริ่มอนุญาตให้ผู้โดยสารลงทะเบียนสถานะการฉีดวัคซีนและผลการตรวจเชื้อโควิด-19 พร้อมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ
