ยอดค้าชายแดน-ผ่านแดน 9 เดือนดิ่งหนัก



  • มีมูลค่า 9.68 แสนล้านบาท ติดลบ 4.88%
  • เหตุโควิด-19 พ่นพิษทำปิดด่านการค้าหลายแห่ง
  • พาณิชย์ถกหน่วยงานเกี่ยวข้องเจรจาลาว-เขมรเปิดด่านเพิ่ม

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงสถิติการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย ช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.63 ว่า มีมูลค่ารวม 968,878 ล้านบาท ลดลง 4.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แบ่งเป็นการส่งออก 563,953 ล้านบาท ลดลง 4.66% และการนำเข้า 404,925 ล้านบาท ลดลง 5.19% โดยไทยเกินดุลการค้า 159,028 ล้านบาท สาเหตุสำคัญที่ทำให้มูลค่าลดลงมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการปิดด่านการค้าไทยกับประเทศต่างๆ จนส่งผลให้การส่งออกไม่คล่องตัว แต่แม้มูลค่ายังลดลงต่อเนื่อง แต่อัตราการลดลงชะลอตัวแล้ว 

สำหรับการค้าชายแดนกับเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ คือ มาเลเซีย เมียนมา ลาว และกัมพูชานั้น ในช่วง 9 เดือน มาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับ 1 มีมูลค่าการค้ารวม 175,101 ล้านบาท ลดลง 17.23% รองลงมาคือ ลาว 139,687 ล้านบาท ลดลง 5.60% เมียนมา 127,010 ล้านบาท ลดลง 12.83% แต่กัมพูชา 119,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.73% โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย เช่น ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันดีเซล สินค้าปศุสัตว์ เป็นต้น  

ส่วนการค้าผ่านแดนไปยัง จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่นๆ พบว่า จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 มีมูลค่าการค้ารวม 176,216 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.19% ตามด้วยสิงคโปร์ 64,448 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.89% เวียดนาม 45,588 ล้านบาท ลดลง 15.05% และประเทศอื่นๆ 121,524 ล้านบาท ลดลง 9.71% สินค้าส่งออกที่สำคัญของไทย เช่น ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง เป็นต้น 

“การปิดด่านการค้า หรือการเข้มงวดในการเข้า-ออกของสินค้าตามด่านชายแดน ส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดน โดยเฉพาะของไทยกับเมียนมา ที่พบการระบาดรอบ 2 เมื่อกลางเดือนต.ค.63 ทำให้จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมาเพิ่มความเข็มงวดในการเข้า-ออก และขนส่งสินค้ามากขึ้น โดยปัจจุบัน ไทยเปิดจุดผ่านแดนต่างๆ แล้ว 36 แห่งจากทั้งหมด 97 แห่งทั่วประเทศ และเปิดเส้นทางขนส่งสินค้าผ่านแดนรวม 19 เส้นทางจาก 33 เส้นทาง อย่างไรก็ตาม กรมอยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย เพื่อผลักดันให้เจรจากับลาว และกัมพูชา เปิดด่านชายแดนเพิ่มเติมตามที่เอกชนเสนอ เพื่อทำให้การขนส่งสินค้าระหว่างกันคล่องตัวมากขึ้น”