ม.หอการค้าไทยคาดส่งออกปี63ติดลบ0.9%



  • หลังพบสารพัดปัจจัยเสี่ยงยังรุมเร้าหนัก
  • ทั้งบาทแข็ง-ศก.โลกชะลอ-น้ำมันผันผวน
  • แนะสร้างภาพลักษณ์-มาตรฐานสินค้าไทย

นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ได้วิเคราะห์สถานการณ์การส่งออกของไทยในปี 63 คาดว่า จะมีมูลค่า 244,231 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบ 0.9% จากปี 62 โดยมีกรอบดีสุดจะเพิ่มขึ้น 0.5% และแย่สุดติดลบ 2.4% ภายใต้สมมติฐานที่ราคาน้ำมันอยู่ที่ 60-80 เหรียญฯต่อบาร์เรล อัตราขยายตัวของเศรษฐกิจโลก 2.7-3.2% ค่าเงินบาท 29-30 บาทต่อเหรียญฯ

สำหรับการส่งออกในปี 63 มีปัจจัยเสี่ยวมากมายที่จะกระทบกับการส่งออกไทย ซึ่งมีทั้งความเสี่ยงระดับสูง ระดับปานกลาง และระดับต่ำ โดยความเสี่ยงระดับสูง ที่ต้องระวัง คือ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งแม้จะมีการลงนามข้อตกลงการค้าในระยะที่ 1 (เฟส 1) แต่ยังมีความเสี่ยงอยู่, สงครามเทคโนโลยี ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการค้า และสงครามค่าเงิน ที่จะกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของไทย ซึ่งหากเงินบาทแข็งค่าถึง 29 บาทต่อเหรียญฯ จะทำให้มูลค่าการส่งออกห่ายไป 1,850 ล้านเหรียญฯ หรือทำให้การขยายตัวลดลง 0.08% และยังมีความเสี่ยงจากปัญหาสหรัฐฯ กับอิหร่าน ที่จะกระทบต่อราคาน้ำมันดิบ และต่อเนื่องถึงเศรษฐกิจโลกที่จะชะลอตัวลง

ส่วนความเสี่ยงระดับปานกลาง คือ เศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญชะลอ และยังมีปัญหาเรื่องภัยแล้ง ที่จะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง ขณะที่ความเสี่ยงในระดับต่ำ คือ การที่สหรัฐฯ ตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ในสินค้าของไทย 573 รายการ ซึ่งจะทำให้การส่งออกไทยลดลง 0.01% การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำขึ้นอีกวันละ 5-6 บาท ที่จะกระทบต่อต้นทุนการผลิต และความตกลงการค้าเสรีระหว่างสหรัฐฯ-เม็กซิโก และแคนาดา (ยูเอสเอ็มซีเอ) ที่อาจกระทบต่อการส่งออกของไทยในสินค้าหลายรายการ เช่น รถยนต์ ชิ้นส่วนรถยนต์ เป็นต้น

” ศูนย์มีข้อเสนอแนะเพื่อให้การส่งออกของไทยเดินหน้า คือ ต้องเร่งประชาสัมพันธ์สร้างภาพลักษณ์สินค้าไทย สร้างมาตรฐานสินค้าไทย เร่งทำกิจกรรมส่งเสริมการค้า กำหนดราคาสินค้าให้เหมาะสม และใกล้เคียงกับประเทศคู่แข่ง สนับสนุนผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ทั้งเรื่องเงินทุน และองค์ความรู้ด้านตลาดต่างประเทศ รวมถึงการเร่งใช้เพลตฟอร์มออนไลน์ให้มากขึ้น เป็นต้น”