

“มีที่มีเงิน” เผยผลงานครึ่งปีแรก ปล่อยสินเชื่อเกือบ 3 พันล้าน พร้อมออกผลิตภัณฑ์ขายฝากเพิ่ม
- เผยบริษัทเริ่มมีรายได้-มีกำไร ครั้งแรกช่วง พ.ค.และ มิ.ย. จำนวน 5 ล้านบาท คาดตลอดทั้งปี มีกำไรสุทธิกว่า 30 ล้านบาท
- แผนครึ่งปีหลัง ส่งผลิตภัณฑ์ขายฝากออกให้บริการ ชูอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาด 5% อยู่ที่ 7-8.5% ต่อปี
นายอิสระ วงศ์รุ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด เปิดเผยผลการดำเนินการงานครึ่งปีแรก 2566 (ม.ค.-มิ.ย.) บริษัทสามารถอนุมัติสินเชื่อได้ 2,973 ล้านบาท จำนวนลูกค้า 853 ราย เพิ่มจากไตรมาสแรก (ม.ค.-มี.ค.) ที่สามารถอนุมัติสินเชื่อได้ประมาณ 1,084 ล้านบาท รวมถึงบริษัทเริ่มมีรายได้และมีกำไรสุทธิเป็นครั้งแรกในช่วงเดือน พ.ค.และ มิ.ย. ที่จำนวน 5 ล้านบาท โดยคาดว่าตลอดทั้งปี จะมีกำไรสุทธิกว่า 30 ล้านบาท ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทอยู่ในช่วงการเริ่มต้นประกอบกิจการ โดยได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2566 เท่ากับว่า บริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินธุรกิจอย่างจริงจังเพียงแค่ระยะเวลา 6 เดือน เท่านั้นเอง
“ในช่วงระยะ 3 เดือนแรกที่เปิดดำเนินการ ยอมรับว่า บริษัทเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ โดยมีพันธมิตรและผู้ถือหุ้นสนับสนุนการปล่อยสินเชื่อ คือ ธนาคารออมสิน แนะนำลูกค้าที่ต้องการสินเชื่อที่ดิน (จำนอง) มาให้บริษัท แต่จะเป็นกรณีที่ไม่ได้อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ธนาคารออมสินสามารถให้สินเชื่อได้ บริษัทก็เข้าไปให้ความช่วยเหลือลูกค้าเหล่านี้ต่อ”
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัท มีที่ มีเงิน เปิดให้บริการแล้วทั่วประเทศ ผ่านสาขาของธนาคารออมสิน จากระยะเริ่มแรกมีที่อยู่ใน10 จังหวัด ประกอบด้วยจังหวัดกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรีประจวบคีรีขันธ์ และภูเก็ต โดยช่วงเดือน เม.ย. ก็ได้เปิดให้บริการอีก 24 จังหวัด คือ เชียงราย ลำปาง ลำพูน สุโขทัยพิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ อุทัยธานี กาญจนบุรี นครปฐม พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรีอุบลราชธานี นครราชสีมา มหาสารคาม อุดรธานี เลย เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี พังงา นครศรีธรรมราช กระบี่ และสงขลารวมเป็น 34 จังหวัด รวมถึงล่าสุดเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ได้เปิดดำเนินการครบทุกจังหวัดทั่วประเทศแล้ว

“สินเชื่อที่ดินในช่วงนี้ ยังมีความต้องการเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพราะฉะนั้นบริษัทจึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการได้ โดยไม่ต้องไปกู้เงินนอกระบบที่เสียอัตราดอกเบี้ยแพง จึงทำให้ผลประกอบการของบริษัท ณ ขณะนี้ อยู่ในเกณฑ์ดี โดยสามารถเบรกผลการขาดทุนต่อเดือนได้สำเร็จ”
นายอิสระ กล่าวด้วยว่า สิ้นปีนี้ บริษัท คาดว่าจะอนุมัติสินเชื่อรวม 7,000 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิมากกว่า 35 ล้านบาท หรือติด 1 ใน 5 ของธุรกิจสินเชื่อที่ดิน สำหรับยอดสินเชื่อที่ตั้งเป้าไว้ จะไปถึงเป้าหมายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจในช่วงต่อจากนี้ไปว่าประชาชน-ผู้ประกอบการ มีความต้องการสินเชื่อมากน้อยแค่ไหนอย่างไร ซึ่งก็เป็นบทบาทหน้าที่ของบริษัท ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการและสังคม โดยอัตราดอกเบี้ยของบริษัท ไม่ได้สูงมากและอยู่ในระดับต่ำกว่าตลาดมากกว่า 5% ต่อปี
นายอิสระ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนงานครึ่งปีหลัง บริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ “ขายฝาก” ในช่วงกลางเดือน ส.ค.ถึงก.ย. นี้ โดยเริ่มนำร่อง 8 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครราชสีมาสุราษฎร์ธานี และระยอง โดยในไตรมาสที่ 4 จะเริ่มดำเนินการให้บริการทั่วประเทศ นอกจากนี้ บริษัทยังจับมือกับพันธมิตร และเป็นผู้ถือหุ้นอีก 2 ราย คือ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในวันที่ 9 ก.ย.นี้ และบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จะดำเนินการในระยะเวลาใกล้เคียงกันต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับ ผลิตภัณฑ์ขายฝาก คือสัญญาซื้อขายซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินตกไปยังผู้รับซื้อฝาก โดยมีข้อตกลงกันว่าผู้ขายฝากสามารถไถ่ทรัพย์ได้ โดยมีระยะเวลาในการไถ่ถอนทรัพย์ภายใน 12 เดือน แต่หากมีความจำเป็นเมื่อใกล้ครบกำหนดไม่สามารถไถ่ถอนได้ ก็ขอขยายระยะเวลาไถ่ถอนได้ด้วย โดยการชำระดอกเบี้ย ซึ่งจะต่ำกว่ากรณีจำนองที่ดินเล็กน้อย โดยอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 7-8.5% ต่อปี
อย่างไรก็ตาม บริษัท มีที่ มีเงิน จำกัด เปิดรับจำนองที่ดิน และขายฝาก รีไฟแนนซ์ ให้กู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดาวงเงินกู้ 1 ล้านบาท ถึง 10 ล้านบาท และนิติบุคคล วงเงินกู้ตั้งแต่ 1 ล้านบาท จนถึง 50 ล้านบาท ให้วงเงินกู้สูงสุด 70% ของราคาประเมินที่ดินราชการ คิดอัตราดอกเบี้ย ปีแรกเริ่มต้นที่ 7.25% ต่อปี ปีที่ 2 เป็นต้นไป MLR+สูงสุดไม่เกิน3.35% ต่อปี (ปัจจุบัน MLR = 6.90% ต่อปี) ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 5 ปี แบบลดต้นลดดอกพร้อมปลอดชำระเงินต้นนาน 1 ปี ที่สำคัญคือ ไม่เช็คเครดิตบูโรสำหรับวงเงินบุคคลธรรมดาไม่เกิน 5 ล้านบาท นิติบุคคลวงเงินไม่เกิน 10 ล้านบาท และไม่ต้องใช้บุคคลค้ำประกัน