มาเลเซียดิ้นเจรจาซื้อวัคซีนจากผู้ผลิตหลายราย



  • หวังฉีดให้ประชาชนอย่างน้อย 83% ของคนทั้งประเทศ 
  • ล่าสุดเจรจาขั้นสุดท้ายกับจีน รัสเซียเก็บให้ได้ 23 ล้านโดส 
  • พร้อมจัดหาห้องเย็นชนิดพิเศษเก็บวัคซีนของไฟเซอร์ 

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รัฐบาลมาเลเซียอยู่ระหว่างการเจรจากับไฟเซอร์ และบริษัทผู้ผลิตยารายอื่นๆ เพื่อเพิ่มปริมาณการสั่งซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 ให้ได้ครอบคลุม 83% ของประชาชนทั้งประเทศ และกำลังเตรียมจัดสร้างห้องเย็นชนิดพิเศษเพื่อใช้เก็บวัคซีน 

รัฐมนตรีวิทยาศาสตร์มาเลเซีย ระบุว่า ล่าสุดจนถึงขณะนี้ รัฐบาลมีวัคซีนเพียงพอสำหรับฉีดให้ประชาชนประมาณ 40% ของประชาทั้งประเทศที่ 32 ล้านคน และที่จะใช้จ่ายเงินสูงถึง 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯในการซื้อวัคซีน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ รัฐบาลกำลังเจรจาเพื่อเพิ่มทางเลือกในการซื้อวัคซีนให้ครอบคลุมประชากร 1 ใน 5 เช่น อาจเจรจากับ แอสตราเซเนกา, โมเดิร์นา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน หลังจากได้ทำข้อตกลงซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์ และไบโอเอ็นเทคของสหรัฐฯไปแล้วจำนวน 12.8 ล้านโดส 

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาขั้นสุดท้ายกับผู้ผลิตหลายราย เพื่อให้ได้วัคซีนทั้งหมด 23.9 ล้านโดส ซึ่งมีทั้งจากจีนคือ บริษัท ซีโนแวค ไบโอเทค และแคนซิโน ไบโอโลจิกส์ รวมถึงสถาบันกามาลียาของรัสเซีย ผู้ผลิตสปุตนิก 5 ขณะเดียวกัน 

รัฐมนตรีวิทยาศาสตร์ ยังกล่าวอีกว่า วัคซีนของไฟเซอร์ ต้องขนส่งและเก็บที่อุณหภูมิ –70 องศาเซลเซียส (-94 องศาฟาเรนไฮ) แม้จะเก็บไว้ในตู้เย็นได้ แต่เก็บได้เพียง 5 วัน หรือไม่เกิน 15 วันในกล่องขนส่งแบบระบายความร้อน ส่งผลให้คณะกรรมการจัดหาวัคซีนของมาเลเซีย ต้องจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการเก็บวัคซีนภายใต้อุณหภูมิต่ำมากเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถส่งวัคซีนไปยังพื้นที่ห่างไกลได้ก่อนที่วัคซีนของไฟเซอร์ล็อตแรกจะมาถึงมาเลเซียในเดือนก.พ.64 

ขณะที่สิงคโปร์ เป็นชาติแรกในอาเซียน ที่ได้รับวัคซีนล็อตแรกจากไฟเซอร์แล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา