มหาดไทย สั่งกำนัน – ผู้ใหญ่บ้านทุกจังหวัด เชิญชวนร้านค้าในชุมชนสมัคร “คนละครึ่ง”



  • เพิ่มจำนวนร้านค้ารองรับการใช้จ่าย
  • หวังเกิดการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจ
  • รีบลงทะเบียน! เหลือสิทธ์แค่ 1.8 ล้านคนเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมือวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัด จังหวัดลำพูน ถึงการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “คนละครึ่ง” ว่า

รัฐบาลมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานราก สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะกลุ่มหาบเร่ แผงลอย เพื่อให้มีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น โดยภาครัฐร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ผ่านฝ่ายของผู้ซื้อ 50% โดยไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 30,000 ล้านบาท ซึ่งการร่วมจ่ายคนละครึ่งนี้จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และจะช่วยเติมกำลังซื้อของประชาชน เพื่อให้มีการใช้จ่ายหมุนเวียนไปถึงผู้ประกอบการรายย่อยได้อย่างต่อเนื่อง เป็นเงิน 60,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ประชาชนที่สมัครเข้าร่วมโครงการจะได้รับวงเงินเข้าแอปพลิเคชันเป๋าตัง คนละ 3,000 บาท เพื่อนำไปใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า 300, 000 แห่งทั่วประเทศ โดยรัฐจะช่วยจ่ายให้ครึ่งหนึ่งของยอดซื้อ แต่สูงสุดไม่เกินวันละ 150 บาท จนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2563 หากประชาชนผู้สมัครเข้าร่วมโครงการได้รับ SMS ยืนยันสิทธิแล้ว ให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และยืนยันตัวตนให้เรียบร้อย จากนั้นเติมเงินตามต้องการเข้าแอปฯ เป๋าตัง ก็จะสามารถใช้ซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการร้านค้าที่มีแอปฯ ถุงเงิน ได้ทันที

สำหรับร้านค้า ผู้ประกอบการ สามารถลงทะเบียนได้ต่อเนื่องตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการ โดยจะต้องมีคุณสมบัติ คือ เป็นผู้ประกอบการร้านค้าประเภทร้านอาหาร เครื่องดื่ม และค้าทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา ไม่เป็นร้านค้าสะดวกซื้อที่มีลักษณะเป็นแฟรนไซส์ มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อรองรับการใช้จ่ายของประชาชน และมีบัญชีธนาคารกรุงไทยเพื่อรองรับเงินร่วมจ่ายจากภาครัฐ โดยรัฐจะโอนเงินเข้าบัญชีของร้านค้าในวันทำการถัดไป

พลเอกอนุพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ทุกจังหวัด เร่งรัดให้อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เข้าไปพบปะเชิญชวนผู้ประกอบการในพื้นที่ ให้สมัครเข้าร่วมโครงการโดยเฉพาะหาบเร่ แผงลอย เพื่อให้มีร้านค้ารองรับการใช้จ่ายมากที่สุด เกิดการหมุนเวียนเงินในระบบเศรษฐกิจของชุมชนในทุกท้องถิ่นให้มากที่สุดอย่างเร่งด่วนต่อไป

อย่างไรก็ตามขณะมีร้านค้าเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 300,000 ร้านค้า มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว 8.2 ล้านคน เหลือให้ลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com เพียง 1.8 ล้านคนเท่านั้น จากจำนวนทั้งหมด 10 ล้านคน