“ภูมิธรรม” ควง รมช.พาณิชย์ เข้ากระทรวงวันแรก

  • ลุยแก้ปัญหาปากท้อง ลดค่าครองชีพประชาชน
  • เร่งปั๊มยอดส่งออกหลังติดลบต่อเนื่องหลายเดือน
  • ลั่นมาตรการดูแลสินค้าเกษตรมีแน่แต่ยังไม่รีบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ก.ย.66 เวลา 08.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์พร้อมด้วย นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ เดินทางเข้ามาปฏิบัติงานที่กระทรวงพาณิชย์วันแรก โดยได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงพาณิชย์ จากนั้นได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ตลอดทั้งวัน และจะมอบนโยบายการทำงานให้กับข้าราชการกระทรวงพาณิชย์อย่างเป็นทางการวันที่ 14 ก.ย.นี้

ทั้งนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ภารกิจเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ คือ ดูแลค่าครองชีพประชาชน ดูแลราคาสินค้าให้สอดคล้องกับค่าครองชีพ ซึ่งจะต้องหาจุดสมดุล เพื่อให้ประชนชนอยู่ได้ และผู้ประกอบการก็อยู่ได้ด้วย

ส่วนปัญหาการส่งออกที่ติดลบต่อเนื่องหลายเดือนนั้น ก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่จะต้องเร่งหาตลาดส่งออกใหม่ โดยต้องทำงานเชิงรุก ซึ่งกระทรวงมีทูตพาณิชย์ประจำอยู่หลายประเทศ ที่จะช่วยกันทำงาน รวมถึงเร่งเจรจาความตกลงการค้าเสรีกรอบต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกโดยคำนึงถึงประโยชน์ประเทศเป็นหลัก ส่วนการดูแลภาคเกษตร ก็เป็นเรื่องจำเป็น โดยต้องหามาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสม ทั้งลดต้นทุนผลิต และสร้างรายได้

“นโยบายของพรรคเพื่อไทย คือ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ซึ่งทำแน่นอน แต่จะใช้มาตรการใดดูแลราคาสินค้าเกษตร ก็ต้องขอดูก่อน ตอนนี้ สินค้าเกษตรบางตัวราคาดีตามกลไกตลาดโลก รอให้กระทรวงพาณิชย์เสนอมาตรการมาก่อน ทุกมาตรการมีทั้งข้อดี และข้อเสีย แต่ก่อนจะออกมาตรการใดๆ ต้องหารือกันอย่างรอบคอบก่อนและอะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชน และประเทศ ท่านนายกฯ สั่งให้ดำเนินการ อย่าให้อุปสรรคมาเป็นปัญหากับการทำงาน”

นายภูมิธรรม กล่าวถึงคำแถลงนโยบายวันที่ 11 ก.ย.นี้ ซึ่งหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตมีหลายประเด็นที่ไม่มีการบรรจุไว้ในคำแถลงของรัฐบาลว่า การแถลงนโยบายถือเป็นกรอบกว้างๆ ครอบคลุมทุกประเด็น ซึ่งรายละเอียดไม่ได้บรรจุในคำแถลงทั้งหมด เพราะหากบรรจุทั้งหมด อาจใช้เวลาแถลงนโยบายต่อรัฐสภามากกว่า 3 วัน แต่หากมีข้อสงสัยให้สอบถามรัฐมนตรีในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้

“ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล จะร่วมกันทำงานเต็มที่อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย และไม่ผิดคำสัญญา อะไรที่รับปากไว้จะทำให้ได้ โดยเฉพาะนโยบายเงินดิจิทัล วอลเลต รัฐบาลจะทำแน่นอน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยทุ่มงบประมาณกว่า 500,000 ล้านบาท เพื่อใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือน และจะใช้เงินดิจิทัลวอลเลตผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน แต่ยังไม่ระบุว่าจะเป็นแอปพลิเคชันใด แต่จะช่วยประเทศเดินหน้าเข้าสู่ยุคดิจิทัล”