พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) กล่าวถึงกรณีเกิดการระบาดใหม่จากสถานบันเทิงในพื้นที่กรุงเทพฯ และเรือนจำจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่ปิด ทาง ศบค.จะปรับมาตรการรับมืออย่างไรว่า วันนี้ได้เชิญทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ โดยน่าจะทราบแนวทางว่าจะทำอย่างไรต่อไป และเวลานี้ยังไม่ต้องออกคำสั่งใดๆเพิ่มเติม เพราะในข้อกำหนดได้มอบอำนาจให้ส่วนงานต่างๆไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแต่จะต้องมาฟังจากกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลักว่ามีความเห็นอย่างไร
ทั้งนี้เมื่อถามว่ามาตรการที่ดูแลในเรือนจำที่มีอยู่ ยังไม่เพียงพอใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เพียงพอ แต่อาจจะมีเล็ดรอดไปบ้าง ก็ต้องมานั่งดูและรับฟังการสอบสวนโรคจากทางกระทรวงสาธารณสุข ที่จะมาชี้แจงให้ทราบในวันนี้และเมื่อถามถึงการแพร่ระบาดจากสถานบันเทิงใน กทม. ซึ่งใกล้กับช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะต้องออกมาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ เลขาฯสมช.กล่าวว่า เรามีข้อห่วงใยในเรื่องนี้ โดยมาตรการที่สำคัญทางโฆษก ศบค.จะเน้นย้ำในเรื่องนี้อีกครั้ง
อีกทั้งเมื่อถามถึงกระแสข่าวลือไปถึงการประกาศเคอร์ฟิว ในเวลากลางคืน พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ให้นโยบายไว้ว่า อะไรที่กระทบต่อส่วนรวม และไม่มีความจำเป็น ก็ให้หลีกเลี่ยง ดังนั้นเราจึงต้องมาคุยอย่างประณีตดูให้ละเอียด ไม่ใช่เหวี่ยงแหทั้งหมด เพราะจะทำให้คนไม่เกี่ยวข้องเดือดร้อนไปด้วย
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวมีการสอบถามอีกว่า จะมีการทบทวนเวลาเปิดร้านอาหารหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวตอบว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ก็ยังดำเนินไปตามมาตรการที่ออกมา โดยส่วนราชการต่างๆ ต้องลงไปกำกับดูแลกิจกรรมและกิจการต่างๆ ที่อยู่ในความผิดชอบ เพื่อให้มาตรการผ่อนคลายเดินไปได้ หากสถานการณ์แพร่ระบาดยังเป็นเช่นนี้ มั่นใจว่าอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ โดยหน่วยงานรัฐต้องช่วยกันกำกับดูแล ซึ่งกิจกรรมที่ต้องดูช่วงนี้ ก็คือการจัดงานสงกรานต์ การท่องเที่ยว และกิจกรรมที่รวมคนจำนวนมาก
เมื่อถามว่าหากสถานการณ์ยังเป็นไปเช่นนี้จะมีผลต่อระยะการกักตัวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จะเข้ามาหรือไม่พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ยังไม่มีผล และเราจะดูเป็นพื้นที่ไป หรือ บั๊บเบิ้ลแอนด์ซีล คือ การจำกัดพื้นที่ ไม่ใช่ว่าพบเจอกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง และประกาศเป็นภาพรวมไปทั้งหมด อย่างนั้นอาจทำให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้นต้องแก้ปัญหาเป็นจุดๆ เป็นแบบรายพื้นที่ไป เวลานี้ยังไม่มีการเสนอคำสั่งใดๆ ออกมาให้นายกรัฐมนตรีลงนาม
