“พ.ต.อ.รุ่งโรจน์” ดิ้นสู้ทุจริตซื้อถุงมือยางแสนล้าน



  • เตรียมส่งหนังสือถึงสุชาติประธานบอร์ดอคส.
  • แจงแนวทางบรรเทาเสียหายจากสัญญาซื้อถุงมือยาง
  • และส่งหนังสือแจงข้อเท็จจริงโครงการ ย้ำไม่ได้ทุจริต

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ในเร็วๆ นี้ ที่ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ รักษาการผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) ผู้ทำสัญญาซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท จากบริษัท การ์เดียน โกลฟส์จำกัด ผู้ผลิตถุงมือยางให้กับอคส. และได้โอนเงิน 2,000 ล้านบาทเป็นค่ามัดจำสินค้าให้กับการ์เดียน โกลฟส์ไปแล้วนั้น จะทำหนังสือถึงนายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธานกรรมการ คณะกรรมการ (บอร์ด) อคส. เพื่อชี้แจงถึงแนวทางการบรรเทาความเสียหายจากการทำสัญญาซื้อถุงมือยางกับการ์เดียน โกลฟส์   

สำหรับวิธีการบรรเทาความเสียหาย มีหลายแนวทาง เช่น หากอคส.เห็นว่า สัญญาระหว่างอคส.กับการ์เดียน โกลฟส์เป็นโมฆะ จะต้องยกเลิกสัญญา แต่หากเห็นว่า เป็นสัญญาที่ดำเนินการอย่างถูกต้อง อคส.ต้องให้บริษัททยอยจัดส่งถุงมือยางมาให้ ถ้าบริษัทไม่ส่งมอบ ก็ถือว่าผิดสัญญา และอคส.สามารถบอกเลิกสัญญาได้ หรือทั้งอคส. และคู่สัญญาต้องส่งมอบ และรับมอบถุงมือตามสัญญาจนครบ และนำไปขาย เพื่อนำเงินมาใช้คืนเงินของอคส. 2,000 ล้านบาท 

ทั้งนี้ ตามแผนเดิมของการจัดซื้อถุงมือยางที่ดำเนินการโดยพ.ต.อ.รุ่งโรจน์ และพวก คือ เจ้าหน้าที่ของอคส.อีก 2 รายซึ่งเป็นการดำเนินการตามนโยบายของผู้บริโภคระดับสูงในอคส.นั้น หลังจากทำสัญญากับการ์ เดียน โกลฟส์ไปแล้ววันที่ 31 ส.ค.63 คาดว่า ทุกอย่างจะดำเนินการได้ตามปกติ คือ บริษัทผลิต และทยอยส่งถุงมือยางให้อคส. จากนั้นอคส.จะนำไปขายให้กับเอกชน 7 รายที่ได้ทำสัญญาซื้อถุงมือยางกับอคส. และอคส.จะนำเงินที่ได้จากการขายมาหมุนเวียนจ่ายให้กับการ์เดียน โกลฟส์ โดยการผลิตและส่งมอบจะทำจนครบตามสัญญา และอคส.จะมีเงินมาใช้คืนเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท และมีกำไรจากโครงการนี้  

นอกจากนี้ ยังคาดว่า นายเกรียงศักดิ์ ผู้อำนวยการอคส.คนใหม่ จะเข้ารับตำแหน่งวันที่ 1 ต.ค.63 แต่กลายเป็นว่า มารับตำแหน่งก่อน ในวันที่ 10 ก.ย.63 ทำให้ทุกอย่างผิดไปจากแผนเดิม เพราะนายเกรียงศักดิ์ เป็นผู้ที่พบว่า เงินหายไปจากบัญชีของอคส. 2,000 ล้านบาท นำมาซึ่งการตรวจสอบ และเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องดำเนินคดีตามกฎหมายกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในขณะนี้ หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนเดิม การซื้อขายก็ยังดำเนินการได้ตามปกติ และไม่ถือว่า มีการทุจริตใดๆ เกิดขึ้น 

อย่างไรก็ตาม คาดว่า อคส.จะไม่ดำเนินการตามแนวทางดังกล่าวแน่นอน เพราะแนวทางนี้ เป็นการผลัก ให้อคส.ฟ้องร้องเอาผิดกับการ์เดียน โกลฟส์เอง ซึ่งในข้อเท็จจริง กรณีจัดซื้อถุงมือยาง เป็นความผิดทางอาญา ที่เอกชนสมคบคิดกับเจ้าหน้าที่รัฐ กระทำทุจริตด้วยการจัดซื้อโดยไม่ดำเนินการตามวิธีการจัดซื้ออย่างถูกต้อง และได้รับประโยชน์จากการกระทำนี้ โดยที่อคส.เสียหาย จึงต้องรอผลการไต่สวนความจริงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่จะชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้อง และดำเนินคดีอาญาทุกคนที่เกี่ยวข้อง 

นอกจากนี้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ ยังเตรียมจะจัดส่งหนังสือชี้แงข้อเท็จจริงโครงการจัดซื้อถุงมือยาง มาให้คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ที่นายเกรียงศักดิ์ ได้แต่งตั้งขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ เพื่อนำผลสรุปสอบข้อเท็จจริง ของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงการจัดซื้อถุงมือยาง ชุดที่นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ที่ได้ทำเสร็จแล้ว มาขยายผลสอบ และสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม หลังจากคณะกรรมการฯ ได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่อคส.ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไปแล้ว เหลือแต่เพียงพ.ต.อ.รุ่งโรจน์เท่านั้น  

โดยในคำชี้แจง พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ จะยืนยันว่า ได้จัดซื้อถุงมือยางตามนโยบายของผู้บริหาร และข้อบังคับของอคส. เมื่อเจ้านายให้นโยบายมาอย่างไร ลูกน้องก็ต้องปฏิบัติตาม ซึ่งการดำเนินการ อาจมีข้อผิดพลาดบ้าง หรือข้ามขั้นตอนบ้าง แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ทุจริตแน่นอน โดยคาดว่า คณะกรรมการนจะสรุปผลการสืบสวนได้เร็วๆ นี้ จากนั้นนายเกรียงศักดิ์ จะตั้งคณะกรรมการสอบวินัย พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ และเจ้าหน้าที่อคส.อีก 2 ราย ที่ร่วมกันทำผิดในการจัดซื้อถุงมือยาง โดยคาดจะมีโทษวินัยร้ายแรงคือ ไล่ออก ขณะเดียวกัน จะถูกฟ้เองคดีอาญา คดีแพ่ง และต้องชดใช้ความเสียหายให้อคส.ด้วย หากทรัพย์สินไม่เพียงพอก็จะถูกยึดทรัพย์ต่อไป