- กังวลพายุเข้าซ้ำ ฝนตกหนัก
- ตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
- เกาะติดเขื่อนลำพระเพลิง
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยภายหลังเป็นประธานปล่อยจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจ ถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.นครราชสีมา ว่า ล่าสุดที่ อ.ปากช่อง น้ำได้ลดลงและคลี่คลายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตอนนี้กำลังติดตามสถานการณ์ที่มีฝนตกลงมาบนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เนื่องจากเกิดฝนตกลงมาอีก โดยทางการกำลังเช็คว่าฝนตกแรงมากน้อยเพียงไร แต่สิ่งที่ต้องจับตามากคือ น้ำจากเขื่อน/อ่างลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีการระบายน้ำออกมาตามคลองสาขา ทำให้มีบางจุดน้ำเอ่อล้น ทำให้เมื่อคืนที่ผ่านมาได้มีการหยุดระบายน้ำก่อน เพื่อให้มวลน้ำที่อยู่ในคลองสาขาไหลผ่านในพื้นที่ใกล้เขตเทศบาลเมืองปักธงชัยไปก่อน แล้วค่อยระบายปล่อยลงมาอีกฉะนั้นจะต้องจับตาเป็นพิเศษที่เขื่อนลำพระเพลิง เพราะปริมาณน้ำกักเก็บมีมาก ถ้าปล่อยออกมามากก็จะล้นคลองสาขาก็จะทำให้ไปกระทบพื้นที่ชุมชน
ทั้งนี้ส่วนภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้มี 17 อำเภอ ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งน้ำท่วมบ้านเรือน น้ำท่วมพื้นที่การเกษตรท่วมขังประมาณ 90,000 ไร่ แต่ก็ต้องสำรวจอีกทีว่าความเสียหายจะเป็นอย่างไร สำหรับน้ำท่วมขณะนี้มี 4 อำเภอวิกฤติหนักมีที่ อ.ปากช่อง แต่น้ำได้ลดลงแล้ว ยกเว้นท้ายน้ำ บริเวณ ต.จันทึก ยังมีน้ำท่วมขังอยู่ อ.ปักธงชัยอ.โนนสูง และ อ.โนนไทย
ทั้งนี้จากการคาดการณ์ว่าจะมีพายุเข้ามาอีกระลอก 3-4 ลูก ทางจังหวัดฯ ได้ตั้งวอร์รูมศูนย์บัญชาการที่จังหวัด และให้ทุกอำเภอตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ติดตามเรื่องนี้ และให้รายงานเรื่องฝนตกน้ำท่วมตลอดเวลา 24 ชั่วโมงทางไลน์อีกทั้งทางจังหวัดยังมีการประชุมทุกอำเภอทางวีดีโอคอนเฟอเร้น เพื่อติดตามสถานการณ์ในแต่ละวัน เนื่องด้วยแต่ละอำเภอได้รับผลกระทบและพื้นที่ค่อนข้างจะกว้างมาก การรอรายงานอาจจะไม่พอ ซึ่งตอนนี้มีการรายงานเข้ามาอย่างตลอดแบบชั่วโมงต่อชั่วโมง
“หากพายุเข้ามาอย่างที่คาดการณ์ตรงนี้ จังหวัดมีความกังวลมาก เพราะปริมาณน้ำตามเขื่อน อ่างเก็บน้ำต่างๆ ที่กักเก็บไว้ตอนนี้เต็มแล้ว ถ้าเข้ามาอีกการระบายจะลำบาก ฉะนั้นตอนนี้ต้องเร่งผลักดันน้ำลงลำน้ำใหญ่ เช่น ลำตะคองต้องเร่งปล่อยลงลำน้ำมูล และตอนนี้ท้ายลำน้ำมูลก็เริ่มจะเต็มเช่นกัน ขณะนี้ต้องไปติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำที่ปลายลำน้ำมูล เพื่อเร่งระบายน้ำพ้น จ.นครราชสีมา ไปโดยเร็ว เพื่อจะรองรับน้ำใหม่ที่จะมา” นายวิเชียร กล่าว
นายวิเชียร กล่าวต่อว่า ต้องเรียนประชาชนว่าพายุที่จะเข้ามาอีกช่วงวันที่ 14-15 ต.ค.นี้ ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะ จ.นครราชสีมา อาจจะได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งค่อนข้างจะหนักสำหรับ จ.นครราชสีมา ตอนนี้การระบายน้ำจะช้ากว่าในช่วงที่ผ่านมา โดยทางจังหวัดจะแจ้งเตือนไปยังพี่น้องประชาชนทุกระยะ
ส่วนประชาชนที่มีความกังวลกันมากว่า มวลน้ำจะเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจในตัวเมืองนั้น ตอนนี้ทางการพยายามที่จะไปกั้นคูหรือคลองส่งน้ำ น้ำที่ไหลเข้าในพื้นที่เศรษฐกิจที่เมืองปักธงชัย จะเป็นน้ำที่ไหลออกจากลำคลองส่งน้ำ เมื่อมีการปล่อยน้ำจากลำพะเพลิงมา ทางการพยายามที่จะกั้นไม่ให้น้ำออกนอกคลองส่งน้ำและนอกลำน้ำที่ระบายออกมา ซึ่งถ้าล้นจะทำให้น้ำเข้าไปยังในพื้นที่เศรษฐกิจเทศบาลเมืองปักธงชัยฯ ตรงนี้ทางจังหวัดจะติดตามอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้มีความห่วงใยและติดตามสถานการณ์ทางโทรศัพท์มาตลอด พร้อมมีข้อสั่งการให้ดูแลพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด ตนยอมรับว่าทางจังหวัด กังวลกับการพยากรณ์อากาศที่จะมีพายุดีเปรสชั่นเข้ามาอีกในเร็วๆนี้อีก 1-2 ลูก
อย่างไรก็ตาม ส่วนเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาชดเชยผู้ได้รับผลกระทบนั้น ก็เป็นไปตามขั้นตอนของราชการ ซึ่งจะต้องมีการสำรวจและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเรื่องของบ้านเรือนที่เสียหาย ทาง อปท.จะช่วยเหลือเป็นลำดับแรก ถ้าอปท.มีจำนวนเงินไม่เพียงพอ ก็จะมาใช้เงินทดลองราชการของจังหวัด ซึ่งเรามีเงินเพียงพอ ส่วนสิ่งสาธารณูปโภคจะต้องให้เจ้าของพื้นที่เป็นผู้ดูแล เช่น ถนน ถ้าเงินไม่พอก็ต้องของบกลาง ส่วนพืชผลการเกษตรหลังจากน้ำลด จะต้องมีการสำรวจความเสียหาย และขอรับงบมาทางจังหวัด เพื่อจะชดเชยพี่น้องเกษตรกรตามระเบียบต่อไป
