พ่อของฟ้าออกมาร่วมกิจกรรม”วิ่งไล่ลุง”อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง-ประชาธิปไตยกลับคืนมา

ที่สวนวชิรเบญจทัศน์(สวนรถไฟ) เมื่อ เวลา 06.45 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” ว่า ตนตื่นเต้นมาก มีประชาชนมากมายมาร่วมงาน จนไม่สามารถระบุได้ว่ามีจำนวนเท่าไร แสดงให้เห็นว่าวันนี้พี่น้องประชาชนตื่นตัว และเข้าใจสถานการณ์การเมือง และเข้าใจว่ามีลุง ที่เป็นตัวฉุดรั้งความเจริญก้าวหน้าของประเทศ เอาไว้ จึงมาแสดงพลังของประชาชนร่วมกัน ณ ที่นี้

เมื่อถามว่าที่มาวันนี้การส่งสัญญาณอะไรไปยังรัฐบาล นายธนาธร กล่าวว่า ตนอยากส่งสัญญาณว่า ตนและพรรคอนาคตใหม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับประชาชน ที่ต้องการเห็นความก้าวหน้า ความเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย ซึ่งมีแต่การที่ประชาชนรวมพลังกันเท่านั้น ที่เราจะสามารถนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงนี้ได้ ดังนั้นเราจึงมาร่วมกิจกรรมในวันนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกระแสธารของประวัติศาสตร์

“นี่คือเสียงของประชาชนที่บอกว่าเราไม่พอใจ กับการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เราต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ต้องการประชาธิปไตยกลับคืนมา นี่คือจิตวิญญาณของคนที่ไม่ยอมจำนนต่อเผด็จการ” นายธนาธร กล่าว

เมื่อถามว่านอกจากกิจกรรมวิ่งไล่ลุงในฐานะแกนนำจัดแฟลชม็อบ จะมีการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้อีกหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า เชื่อว่าปี 2563 เราจะเห็นการชุมนุมของประชาชนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่เรียกร้องประชาธิปไตย กลุ่มที่ต้องการเห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่เป็นของประชาชน กลุ่มเรียกร้องปัญหาที่ดิน และประมง เราคงได้เห็นการชุมนุมของประชาชนออกมามากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราจะได้เห็นในปี 2563

จากนั้นนายธนาธรได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวต่างประเทศเป็นภาษาอังกฤษ โดยระบุว่า “ผมอยากเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ ผมคิดว่านี่คือก้าวแรกของการกลับสู่ประชาธิปไตยของประเทศไทย คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกไป เพื่อเปิดประตูให้ประชาธิปไตยกลับคืนมา ผมพูดกับประชาชนที่มาร่วมงานวันนี้ว่า นี่คือช่วงเวลาแห่งการยืนหยัดต่อสู้ เวลาที่เราต้องทำงานร่วมกัน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน ผมภูมิใจมากกับคนไทย ที่พวกเขาต้องการปกป้อง อนาคตของเด็กๆในประเทศนี้”

เมื่อถามถึงการจัดงาน “เดินเชียร์ลุง” ที่สวนลุมพินี นายธนาธร กล่าวว่า “ผมไม่รู้ ผมไม่รู้ว่ามีคนมาเท่าไร ผมไม่ได้อยู่ในจุดที่จะแสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ได้ ประชาชนตระหนักรู้ถึงความเป็นเผด็จการที่เกิดขึ้น สถานการณ์การเมืองตอนนี้ แสดงให้เห็นว่าประชาชนมีความกลมเกลียวร่วมกัน แสดงให้เห็นว่า เวลาของเผด็จการกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว”

นายธนาธร กล่าวต่อว่า สิ่งที่เราเห็นในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเผด็จการที่ยังหลงเหลืออยู่ ขณะที่มีประชาชนจำนวนมากจัดงานวิ่งไล่ลุง ในต่างจังหวัดกลับถูกเจ้าหน้าที่ข่มขู่ คุกคาม เข้าไปเยี่ยมบ้าน กดดันให้งดจัดกิจกรรม ในต่างจังหวัด กระบวนการดังกล่าวไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่คือซากเดนของเผด็จการ ที่ยังหลงเหลือในประเทศ ตนขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ยุติการข่มขู่คุกคามประชาชนที่ลุกขึ้นมาแสดงสิทธิเรียกร้องประชาธิปไตย ขอเชิญชวน ประชาชนทุกคนจงกล้าหาญ ต่อสู้กับอำนาจอยุติธรรม เขาต้องการให้เรากลัว ถ้าเรากลัวก็จะเข้าทางพวกเขา ถ้าเรากลัว การเปลี่ยนแปลงจะไม่เกิดขึ้นจริง และไม่มีทางได้สังคมที่ดีกว่านี้ขึ้นมา ตนขอเรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ และพล.อ.ประยุทธ์ ขอให้เลิกข่มขู่ประชาชน ที่มีสังคมประชาธิปไตย เปิดโอกาสให้ให้มีการแสดงความคิดและความเชื่อออกมา

เมื่อถามว่า กิจกรรมฯดังกล่าว จะเป็นจุดเริ่มต้นการชุมนุมทางการเมืองหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ม็อบมีมานานแล้ว ซึ่งปลายปี 2562 ก็มีทั้งม็อบประมง ม็อบสมัชชาคนจน ดังนั้น สิทธิในกาแสดงออกของประชาชนในที่สาธารณะ อย่างสันติ ไม่ใช้ความรุนแรง เป็นสิทธิอันชอบธรรมของระบบประชาธิปไตย อย่าไปกลัว

เมื่อถามว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าว จะนำไปสู่ความตึงเครียดทางการเมืองหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ตนคิดว่า การรวมตัวเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของสังคมที่เป็นประชาธิปไตย

เมื่อถามถึงกรณีที่จะมีการพิจารณาตัดสินยุบพรรคอนาคตใหม่ในวันที่ 21 มกราคม 2563 นายธนาธร กล่าวว่า อย่างที่เราบอกเสมอ จิตวิญญาณของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และความยุติธรรมก็ยังคงมีอยู่ ดังนั้นการยุบพรรคฯไม่ช่วยอะไร ตนอยากให้เผด็จการทราบว่าวิธีเดียวที่จะทำได้ คือ การปล่อยให้ประชาธิปไตยกลับคืนสู่ประเทศ

ขอบคุณข้อมูลจากแนวหน้า