พิษ “โนรู” ซัดถนนทางหลวงพังยับใน 24 จังหวัดทั่วไทย

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.) เปิดเผยว่า จากผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น “โนรู” ทำให้มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ กรมทางหลวง จึงลงพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชน  พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที  ซึ่งจากผลกระทบดังกล่าวพบว่ามีน้ำท่วมและดินสไลด์บนทางหลวง ทำให้ถนนทางหลวงเสียหายในพื้นที่ 24 จังหวัด ได้แก่ จ.เพชรบูรณ์, จ.เลย, จ.ศรีสะเกษ, จ.สุรินทร์, จ.บุรีรัมย์, จ.นครราชสีมา, จ.ขอนแก่น, จ.มหาสารคาม, จ.ชัยภูมิ, จ.อุบลราชธานี, จ.หนองบัวลำภู, จ.ร้อยเอ็ด, จ.ลพบุรี, จ.อ่างทอง, จ.พระนครศรีอยุธยา, จ.กำแพงเพชร, จ.กรุงเทพฯ, จ.นนทบุรี, จ.สระบุรี, จ.ลำปาง, จ.ปราจีนบุรี, จ.เชียงใหม่ และ จ.ตาก ถนนเสียหายรวมกว่า 76 สายทาง เสียหายถึง 104 แห่ง แบ่งเป็นทางหลวงที่เสียหายแต่ประชาชนยังสามารถสัญจรผ่านไปมาได้ 91 แห่ง  และถนนเสียหายแต่ประชาชนไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ 13 แห่ง ในพื้นที่ 7 จังหวัด อย่างไรก็ตามในทุกจุดที่เสียหายจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร  

สำหรับถนนทางหลวงที่เสียหายในพื้นที่ 7 จังหวัด ประกอบด้วย 1.จังหวัดขอนแก่น จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 229 ตอน บ้านไผ่ – มัญจาคีรี ในพื้นที่ อ.มัญจาคีรี ช่วง กม.ที่ 23+800 – 24+595 ระดับน้ำ 55 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน 2. จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 2 แห่ง ได้แก่  ทางหลวงหมายเลข 2170 ตอน วัดประทุมชาติ – หนองจาน ในพื้นที่ อ.จตุรัส ช่วง กม.ที่3+125 – กม.4+100 ระดับน้ำ 40 ซม. รถเล็กผ่านไม่ได้  และ ทางหลวงหมายเลข 2179 ตอน จตุรัส – บำเหน็จณรงค์ ในพื้นที่ อ.บำเหน็จณรงค์ ช่วง กม.ที่ 13+500 – 13+600 น้ำกัดเซาะคันทางชำรุด ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน คาดว่าจะผ่านได้ 7 ต.ค. 65

3. จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 2 แห่ง ได้แก่  ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ศรีสะเกษ – ห้วยขะยุง ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 311+900 – 313+384 ระดับน้ำ 60 – 70 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน และ ทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าศาลา – ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+500 ระดับน้ำ 45 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน 4. จังหวัดสุรินทร์ 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ลำน้ำชี – บ้านพม่า ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 162+750 – 163+750 ระดับน้ำ 40 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2485 และ ทล.293 แทน  

และ 5. จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 2 แห่ง  ประกอบด้วย ทางหลวงหมายเลข 24 ตอน วารินชำราบ – อุบลราชธานี ช่วง กม.ที่ 418+400 – 419+600 ระดับน้ำ 70 – 90 ซม. แนะนำเส้นทางเลี่ยง ทล.217 ทางแยกต่างระดับบัวเทิง เลี้ยวซ้ายไปสะพานข้ามแม่น้ำมูล เข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี และ ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 319+600 – 320+200 ระดับน้ำ 65 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน 

6. จังหวัดลพบุรี จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ ทางหลวงหมายเลข 205 ตอน เทศบาลลำนารายณ์ – ช่องสำราญ ในพื้นที่ อ.ชัยบาดาล ช่วง กม.ที่ 82+800 – กม.84+600 ระดับน้ำ 30 – 40 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน , ทางหลวงหมายเลข 205 ตอน คลองห้วยไผ่ – เทศบาลลำนารายณ์ ในพื้นที่ อ.ชัยบาดาล ช่วง กม.ที่ 69+300 – 70+700 ระดับน้ำ 30 – 40 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน , ทางหลวงหมายเลข 2243 ตอน บัวชุม – สี่แยกบัวชุม ในพื้นที่ อ.ชัยบาดาล ช่วง กม.ที่ 1+100 – 3+050 ระดับน้ำ 40 – 60 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน , ทางหลวงหมายเลข 2275 หนองบง – ซับลังกา ในพื้นที่ อ.ชัยบาดาล ช่วง กม.ที่ 0+500 – 4+200 ระดับน้ำ 40 – 60 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน

และ 7. จังหวัดลำปาง จำนวน 1 แห่ง บนทางหลวงหมายเลข 1102 ตอน พระบาท – บ้านเหล่า ในพื้นที่ อ.แม่พริก ช่วง กม.ที่ 2+800 ระดับน้ำ 60 ซม.

ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที   นอกจากนี้กรมทางหลวงได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง ในบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1