วันที่ 10 มิ.ย.2564 ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้ทำการสำรวจโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดมหาสารคาม โดยเป็นการสำรวจในช่วงครึ่งหลัง ปี 2563 ซึ่งเป็นการสำรวจโครงการบ้านจัดสรร และอาคารชุด ที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย พบว่ามีจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างขาย ณ ครึ่งหลัง ปี 2563 ทั้งหมด 297 โครงการ จำนวน 13,500 หน่วย มูลค่ารวม 47,535 ล้านบาท
แบ่งเป็น โครงการบ้านจัดสรร 250 โครงการ 10,620 หน่วย มูลค่า 40,361 ล้านบาท และโครงการอาคารชุด 47 โครงการ 2,880 หน่วย มูลค่า 7,174 ล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวมีหน่วยเหลือขายจำนวน 12,365 หน่วย รวมมูลค่าหน่วยเหลือขาย 43,350 ล้านบาท และในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 มีที่อยู่อาศัยขายได้ใหม่จำนวน 1,135 หน่วย รวมมูลค่า 3,585 ล้านบาท
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่าการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยระหว่างการขายในพื้นที่ จังหวัดนครราชสีมา มีอัตราลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ประมาณ 10.4% โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 6,161 หน่วย ในจำนวนดังกล่าวเป็นโครงการบ้านจัดสรร 4,480 หน่วย หรือ 72.7% เป็นโครงการอาคารชุด 1,681 หน่วย หรือ 27.3% และเป็นโครงการเปิดขายใหม่ในครึ่งหลังปี 2563 เพียง 607 หน่วย มีอัตราลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ประมาณ 53.0% มีหน่วยขายได้ใหม่จำนวน 495 หน่วย ซึ่งการขายได้ใหม่นี้มีอัตราลดลงถึง 18.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้มีหน่วยเหลือขายสะสมจำนวน 5,666 หน่วย หรือลดลง 9.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562เมื่อจำแนกตามราคาพบว่าหน่วยเหลือขายส่วนใหญ่อยู่ในช่วงระดับราคา 3.01-5.00 ล้านบาท โดยมีจำนวน 2,191 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 38.7% ของหน่วยเหลือขายทั้งหมด ขณะที่หน่วยขายได้ใหม่มากที่สุดก็ยังคงอยู่ในช่วงราคา 2.01-3.00 ล้านบาท โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 234 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 47.3% สำหรับหน่วยเหลือขายในครึ่งหลัง ปี 2563 ในจังหวัดนครราชสีมา เป็นโครงการบ้านจัดสรรจำนวนทั้งสิ้น 4,069 หน่วย จากจำนวนหน่วยเหลือขาย 5,666 หน่วย หรือคิดเป็น 71.8% ของหน่วยเหลือขายทั้งหมด
สำหรับทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยในจังหวัดนครราชสีมา ปี 2564 ภาพรวมตลาดยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากปี 2563 ผลจากโควิด-19 ช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ทำให้ตลาดทั้งปี 2564 มีภาวะชะลอตัวเช่นเดียวกับปี 2563 คาดการณ์ว่าช่วง ไตรมาส 1/64 หน่วยเปิดใหม่จะต่ำกว่า ไตรมาส1/63 อยู่ที่ 24.7% และ ไตรมาส2/64 จะเพิ่มขึ้น 45.6% จากไตรมาส 2/63 หน่วยเปิดใหม่รวมปี 2564 คาดว่าจะมีจำนวน 1,684 หน่วย มูลค่า 5,352 ล้านบาท
“ส่วนหน่วยขายได้ใหม่ ไตรมาส1/64 หน่วยขายได้จะต่ำว่า ไตรมาส 1 /63 ที่ 34.8% ส่วน ไตรมาส 2 /64 จะเพิ่มขึ้น 91.5% จาก H2/63 หน่วยขายได้ใหม่รวมปี 2564 คาดว่าจะมีจำนวน 1,793 หน่วย มูลค่า 5,711 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขาย ณ สิ้นปี 2564 จะมีประมาณ 6,770 หน่วย มูลค่า 24,278 ล้านบาท และการโอนกรรมสิทธิ์ ในปี 2564 คาดว่าจะมีจำนวนหน่วยประมาณ 6,141 หน่วย ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า 26.6% และคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 10,627 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 38.4%”
