- ส่งออกหดตัวร้อยละ 17.2 -นำเข้าลดลงร้อยละ 4
- ขาดดุลการค้า 7.09 พันล้านดอลลาร์
- คาดฟื้นตัวไตรมาสสามของปี
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานการส่งออกของจีนหดตัวลงอย่างมากในช่วงสองเดือนแรกของปี 2563 และการนำเข้าชะลอตัวเนื่องจากวิกฤตสุขภาพที่เกิดจากการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่-2019 (โควิค-19) ทำให้เกิดการหยุดชะงักในการดำเนินธุรกิจห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยรายงานการค้าที่ชะลอตัว เป็นปัจจัยหนุนต่อความกลัวว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะลดลงในช่วงไตรมาสแรกจนถึงจุดที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ปี 2533 เนื่องจากการระบาดของโรคและมาตรการกักกันของรัฐบาลที่เข้มงวดทำให้การผลิตของโรงงานอ่อนแอลง
ทั้งนี้ในรายงานระบุว่าการส่งออกของจีนปรับตัวลดลงร้อยละ 17.2 ในเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ การนำเข้าในช่วงสองเดือนแรกของปี 2563 ลดลงร้อยละ 4 จากระยะเดียวกันของปีก่อน แต่ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงร้อยละ 15 เป็นผลจากข้อตกลงทางการค้าขั้นต้นของจีน – สหรัฐฯ ที่ตกลงกันได้เมื่อปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้การนำเข้าปรับตัวลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ประเทศจีนมียอดขาดดุลการค้า 7.09 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาดังกล่าว จากเดิมที่คาดว่าจะมียอดเกินดุล 24.6 พันล้านดอลลาร์
สำหรับการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 มีผู้เสียชีวิตกว่า 3,000 รายและติดเชื้อมากกว่า 80,000 คนในประเทศจีน แม้ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีนจะลดลงและรัฐบาลท้องถิ่นกำลังผ่อนคลายมาตรการฉุกเฉินอย่างช้า ๆ นักวิเคราะห์กล่าวว่าธุรกิจหลายแห่งใช้เวลาในการเปิดใหม่นานกว่าที่คาดไว้และอาจไม่กลับสู่การผลิตปกติจนถึงเดือนเมษายน
ความล่าช้าเหล่านั้นคุกคามการรั่วไหลของเศรษฐกิจที่นานขึ้นและมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าในเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่สำคัญของจีนซึ่งส่วนใหญ่พึ่งพาชิ้นส่วนและส่วนประกอบที่ทำจากจีน
