

- เกาะภูเก็ต เกาะพีพี
- เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า
- ตลอดทั้งปีได้ไม่เกิน 10 ล้านคน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวคาดว่า ประเทศไทยจะสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วไปให้เริ่มเข้ามาได้ตั้งแต่เดือนส.ค. เร็วกว่ากำหนดการเดิมที่คาดไว้ราวเดือนก.ย.-ต.ค.2563 หลังจากที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัญญาณกระทรวงการท่องเที่ยวให้เตรียมความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งในเดือนส.ค.ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้มีการหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและผู้ประกอบการท่องเที่ยวแล้ว ในการเตรียมความพร้อมเป็น 1 ใน 3 จังหวัดนำร่อง เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวเทียบสัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวม(จีดีพี)ภายในจังหวัดในเกณฑ์สูง ทำให้คาดว่าจะเกิดการยอมรับของคนในพื้นที่ และลดกระแสต่อต้านการนำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้มากกว่า
สำหรับจังหวัดที่พร้อมจะต้อนรับนักท่องเที่ยวก่อนมีทั้งสิ้น 3 จังหวัดรวม 5 จุดหมาย ได้แก่ เกาะภูเก็ต เกาะพีพี ในจังหวัดกระบี่ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่าในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนเกณฑ์ในการเปิดรับอยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงสาธารณสุข แต่หลักการที่แน่ชัดแล้วคือ จะจัดสรรโควต้าจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไปในแต่ละพื้นที่ โดยคำนวณจากขีดความสามารถในด้านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และศักยภาพด้านสาธารณสุขเป็นหลัก ส่วนการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวนั้น จะอนุญาตให้โดยสารเครื่องบินตรงสู่จุดหมายที่กำหนดเท่านั้น หากมีความจำเป็นต้องแวะพักเพื่อเปลี่ยนเที่ยวบินในกรุงเทพฯ จะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากสนามบินมาท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ แต่อย่างใด
นายพิพิฒน์ กล่าวด้วยว่า แม้จะมีมาตรการผ่อนคลายให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่แนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างประเทศปีนี้ จะไม่เกิน 10 ล้านคน เนื่องจากไทยมียอดสะสมจากเดือนม.ค.-มี.ค.2563 ที่ 6.7 ล้านคน และในช่วง 3-4 เดือนที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ในปีนี้ ก็เป็นไปได้ยากที่มีชาวต่างชาติเข้ามาถึง 1.1 ล้านคนต่อเดือน เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านโควต้าและพื้นที่ที่พร้อมรองรับ