

“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”อัดคลิปโพสต์โซเชียลส่งสารถึงส.ส.และส.ว.หนุนรัฐบาลเสียงข้างมาก คืนความปกติสู่การเมือง
“ผมขอสื่อสารไปยัง ส.ส.และ ส.ว.ทุกท่าน ท่านอาจไม่ชอบแนวทางการเมืองของพวกเราในระบอบการเมืองปกติ แต่พวกท่านตรวจสอบผมได้ โจมตีผมได้ โหวตผมออกจากตำแหน่งก็ยังทำได้ แต่การโหวตให้รัฐบาลเสียงข้างมากคือการให้โอกาสประเทศไทยเดินหน้าในแบบที่ควรจะเป็น”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้อัดคลิปและเผยแพร่ในทุกช่องทางการสื่อสารความยาว 4.33 นาที พร้อมระบุ จากพิธาถึงทุกคน ก่อนวันโหวตนายกรัฐมนตรี 13 กรกฎาคมนี้ ให้โอกาสประเทศไทยได้มีรัฐบาลเสียงข้างมากตามเจตจำนงของประชาชน เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย คืนความปกติสู่การเมือง
โดยในคลิปนายพิธากล่าวว่า สวัสดีประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศทุกท่าน 14 พฤษภาคม 2566 เป็นวันที่เจตจำนงของคนไทยแสดงออกอย่างชัดเจนผ่านบัตรเลือกตั้ง เลือกพรรคก้าวไกลมากถึง 14,438,851 เสียง ส่งให้เรากลายเป็นพรรคการเมืองอันดับ 1 ในสภาผู้แทนราษฎร และมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 152 คน นี่คือเสียงที่ดังพร้อมกันทั้งประเทศว่าทุกท่านต้องการประเทศไทยที่ไม่เหมือนเดิม ผมและพรรคก้าวไกลได้น้อมรับมติจากประชาชนเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล เราได้รวบรวมพรรคการเมือง 8 พรรค หรือ 72% ของผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง
ในการเมืองปกติพวกเรารัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคก้าวไกลคงได้เข้าไปบริหารประเทศ แก้ไขปัญหาของประชาชนได้แล้ว แต่จนถึงวันนี้เกือบ 2 เดือนหลังการเลือกตั้ง การโหวตนายกรัฐมนตรีเพิ่งจะมาถึง และเรายังต้องรอการตัดสินใจของ ส.ว.ว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะเป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนหรือไม่
วันนี้ชัดเจนว่าประเทศไทยอยู่ในการเมืองที่ไม่ปกติ อำนาจที่เป็นตัวแทนของประชาชนผ่านการเลือกตั้งถูกล้มล้างครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยการรัฐประหาร นิติสงคราม และการยุบพรรค ความไม่ปกตินี้เกิดจากรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งในวันนี้ยังคงอยู่กับเราอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ แต่นี่ก็คือโอกาสของประเทศไทยที่พวกเราจะคืนความปกติกลับสู่การเมืองไทยอีกครั้ง ให้โอกาสประเทศไทยได้กลับมามีรัฐบาลที่ชอบธรรม เดินหน้าซ่อมแซมแก้ไขประเทศไทยตามที่ประชาชนคาดหวัง ให้โอกาสประเทศไทยกลับสู่ครรลองของการเมืองรัฐสภาที่ประชาชนเชื่อมั่นและฝากความหวังไว้ได้
ให้โอกาสประเทศไทยได้เดินหน้าไปสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ค่าแรงที่เป็นธรรม สวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร เศรษฐกิจที่เติบโตอย่างก้าวหน้าและเป็นธรรม มีนวัตกรรมของตัวเอง ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสังคมที่เห็นคนเท่ากัน โดยมีกฎหมายคุ้มครองสิทธิเสรีภาพไม่ใช่กดปราบลิดรอนสิทธิของประชาชน
การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 ก.ค. ไม่ใช่การเลือกพิธา ไม่ใช่การเลือกพรรคก้าวไกล แต่คือการเลือกเพื่อยืนยันว่าประเทศไทยต้องเดินหน้าตามระบอบประชาธิปไตยแบบปกติ เช่นเดียวกับประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก คือการเลือกเพื่อยืนยันว่าแม้เราจะยังอยู่กับรัฐธรรมนูญที่เอื้อต่อการเมืองที่ไม่ปกติ แต่สมาชิกรัฐสภาทุกคนสามารถร่วมกันใช้เสียงของตัวเองสานต่อเจตนารมณ์ที่ประชาชนแสดงออกผ่านการเลือกตั้งให้ลุล่วง จัดตั้งรัฐบาลที่เป็นตัวแทนเสียงข้างมากให้สำเร็จ
ภารกิจนี้คือภารกิจร่วมกันของเราทุกคนในฐานะสมาชิกรัฐสภา ผู้ถืออำนาจแทนประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ในโอกาสนี้ครับผมขอสื่อสารไปยัง ส.ส.และ ส.ว.ทุกท่าน ท่านอาจไม่ชอบแนวทางการเมืองของพวกเราในระบอบการเมืองปกติ แต่พวกท่านตรวจสอบผมได้ โจมตีผมได้ โหวตผมออกจากตำแหน่งก็ยังทำได้ แต่การโหวตให้รัฐบาลเสียงข้างมากคือการให้โอกาสประเทศไทยเดินหน้าในแบบที่ควรจะเป็น ในโอกาสนี้ครับ ขอสื่อสารไปยังประชาชน เราผ่านวันเลือกตั้งมาแล้ว แต่ภารกิจยังไม่สำเร็จ การเปลี่ยนแปลงประเทศจะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีรัฐบาลเสียงข้างมากที่จะนำพาประเทศไปสู่ข้างหน้า
“ผมพร้อมแล้วครับที่จะเป็นนายกฯของทุกคน ไม่ว่าท่านจะเลือกพรรคไหน มีความเห็นทางการเมืองอย่างไร ปรารถนาถึงสังคมแบบไหน ผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีที่บริหารประเทศที่โอบรับความฝันอันหลากหลายของทุกคนได้ หากนี่คือสิ่งที่ท่านอยากเห็น ให้โอกาสประเทศไทยได้เดินไปข้างหน้าโดยการบริหารของรัฐบาลพรรคร่วม 8 พรรค ที่นำโดยนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขอบคุณมากครับ”