“พาณิชย์” แนะผู้ส่งออกไทย รับมือศรีลังกาคุมเข้มสินค้านำเข้า



  • หลังออกกฎติดฉลากสินค้าภาษาสิงหล ทมิฬ อังกฤษ
  • ดีเดย์วันที่ 1 มี.ค.64 ครอบคลุมสินค้ารวม 76 รายการ
  • หวังไม่ให้ถูกปฏิเสธนำเข้า หรือผ่านด่านศุลกากรล่าช้า

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ เมืองเจนไน สาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งมีเขตอาณาครอบคลุมประเทศศรีลังกาและมัลดีฟส์รายงานว่า สำนักงานกิจการผู้บริโภคศรีลังกา ได้ออกกฎระเบียบใหม่ให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ตัวแทนจำหน่ายและเทรดเดอร์ทุกรายต้องระบุข้อมูลต่างๆ ของสินค้า เป็นภาษาสิงหล ภาษาทมิฬ และภาษาอังกฤษบนบรรจุภัณฑ์ กล่องบรรจุ หรือสิ่งที่ห่อหุ้มสินค้า ได้แก่ ราคาจำหน่ายปลีกสูงสุด, เลขหมายครั้งที่ทำการผลิต, วันหมดอายุ วันผลิต, น้ำหนัก/ปริมาตรสุทธิ, ประเทศแหล่งกำเนิด/ประเทศผู้ผลิต

ส่วนกรณีเป็นสินค้านำเข้าครั้งละจำนวนมาก และนำมาแยกบรรจุใหม่ (รีแพ็กเกจจิ้ง) หรือสินค้าที่ผลิตและบรรจุครั้งละจำนวนมาก และนำมาแยกบรรจุใหม่ ต้องระบุวันที่แยกบรรจุใหม่ด้วย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.64 เป็นต้นไปโดยสินค้าที่เข้าข่ายตามข้อบังคับใหม่ รวมทั้งสิ้น 76 รายการ ได้แก่ สินค้ากลุ่มเนื้อสัตว์และปลา ชา กาแฟ นมผงน้ำตาล เครื่องเทศ น้ำดื่มบรรจุขวด น้ำอัดลม อาหารเด็กทารก ไอศกรีม สินค้าสมุนไพรและยาสมุนไพรที่จำหน่ายเป็นแพ็คหรือกล่องบรรจุ น้ำมันและครีมใส่ผม เจลเซ็ตผม น้ำยาย้อมผม ยาสระผม ครีมนวดผม แป้งทาผิว โคโลญจน์ สเปรย์น้ำหอม โลชั่นทาผิว ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปากที่จำหน่ายเป็นแพ็คหรือกล่องบรรจุทรานซิสเตอร์หรือถ่านไฟฉายที่จำหน่ายเป็นแพ็ค ปูนซีเมนต์ ปุ๋ยและเคมีภัณฑ์เกษตร

“มีสินค้าไทยหลายประเภทอยู่ในข่ายที่จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับเรื่องฉลากสินค้าใหม่ โดยเฉพาะสินค้าปลาแห้งข้าวสาร เส้นก๋วยเตี๋ยว ปลากระป๋อง ผักผลไม้อบแห้ง กะทิผง/บรรจุกล่องหรือกระป๋อง นมข้นหวาน ขนมขบเคี้ยวอาหารเด็ก อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม สินค้าสมุนไพร สินค้าเพื่อสุขภาพ ความงามและสปา รวมถึงวัสดุก่อสร้างและปูนซีเมนต์ ซึ่งผู้ประกอบการไทยควรเตรียมความพร้อม โดยปรับเปลี่ยนข้อมูลบนฉลาก หรือบรรจุภัณฑ์สินค้าที่ให้ตรงตามข้อบังคับใหม่นี้ เพื่อป้องกันการปฏิเสธการนำเข้า หรือความล่าช้าในการตรวจผ่านสินค้าของศุลกากรและหน่วยงานการนำเข้าอื่นๆ”

อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่า ประเทศต่างๆ ในเอเชียใต้ จะทยอยออกข้อกำหนดเรื่องแหล่งกำเนิดสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยควรเตรียมความพร้เอมรับการเปลี่ยนแปลง และศึกษากฎระเบียนให้ดี เพื่อไม่ให้เสียตลาดในอนาคต สำหรับกระแสการออกข้อกำหนดใหม่ๆ เกี่ยวกับสินค้านำเข้า มาจากอินเดียที่ต้องการตรวจเข้มสินค้านำเข้าด้อยคุณภาพจากจีน และขยายไปถึงศรีลังกา เนื่องจากการค้าในโลกเน้นการจำหน่ายผ่านออนไลน์มากขึ้น รัฐบาลแต่ละประเทศจึงจำเป็นต้องควบคุมและกำกับดูแลมากขึ้นตามไปด้วย