พาณิชย์-เกษตร-พ่อค้าปุ๋ยจับมืออุ้มเกษตรกรทั่วประเทศ

.เดินหน้าโครงการลดราคาปุ๋ยลดต้นทุนเกษตรกรรอบ 2
.จัดปุ๋ยสูตรยอดนิยมลดราคาขายกระสอบละ 20 บาท
.เป้าหมายรวมกว่า 2 แสนตันขายถูกจนถึงสิ้นเดือนส.ค.นี้

ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการเกษตร และกรมส่งเสริมสหกรณ์ จัดทำโครงการลดราคาปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร รอบที่ 2 โดยขอความร่วมมือ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย สมาคมการค้าผู้ผลิตปุ๋ยไทย สมาคมคนไทยธุรกิจเกษตร ซึ่งมีสมาชิกที่เป็น ผู้ผลิตและนำเข้าแม่ปุ๋ยและปุ๋ยเคมี 19 ราย โดยมีปุ๋ยที่ได้รับความนิยม รวม 84 สูตร เช่น สูตร 46-0-0, สูตร 16-20-0, สูตร 21-0-0, สูตร 15-15-15 เป็นต้น มาจัดจำหน่ายผ่านสหกรณ์และสถาบันเกษตรกร ในราคาถูกกว่าท้องตลาด หรือลดราคากระสอบละ 20 บาท มีเป้าหมายรวม 208,411 ตัน ซึ่งจะดำเนินการให้ครบตามเป้าหมายจนถึงสิ้นเดือนส.ค.นี้

“ราคาปุ๋ยในตลาดสูงขึ้น ตามราคาวัตถุดิบแม่ปุ๋ยยูเรีย แม่ปุ๋ยฟอสเฟต และแม่ปุ๋ยโพแทสเซียม รวมถึงปุ๋ยเคมีสำเร็จรูป ที่ส่วนใหญ่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ที่ปรับสูงขึ้น จากความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีในต่างประเทศเพิ่มขึ้น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ จึงสั่งการให้กรมการค้าภายใน แก้ไขปัญหานี้มาอย่างต่อเนื่อง เช่น ขอความร่วมมือให้ผู้จำหน่ายปุ๋ยตรึงราคาขายระยะหนึ่ง เข้มงวดการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย และตรวจสอบสถานการณ์ราคา รวมถึงจัดทำโครงการลดราคาปุ๋ย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรด้านปัจจัยการผลิต เพื่อลดภาระการผลิตให้กับเกษตรกร”

สำหรับผลการดำเนินงานในรอบที่ 1 ระหว่างวันที่ 6-9 ก.ค.64 ได้เชื่อมโยงจำหน่ายผ่านสถาบันเกษตรกร 97 แห่งรวม 29,597 ตัน ช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิตได้ 11,838,800 บาท โดยสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ ติดต่อได้ที่กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมส่งเสริมสหกรณ์

ร้อยตรีจักรา กล่าวต่อว่า กรมยังมีมาตรการการกำกับดูแลด้านปริมาณและราคาปุ๋ยอีก โดยกำหนดให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้จำหน่าย ตั้งแต่ 100 ตันขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณผลิต นำเข้า จำหน่าย คงเหลือ สถานที่เก็บ
เป็นประจำทุกเดือน ภายในวันที่ 10 ของเดือน ส่วนผู้ผลิตต้องขออนุญาตเปลี่ยนแปลงราคาจำหน่าย และผู้นำเข้าต้องแจ้งการนำเข้า (ปริมาณ ราคา ยี่ห้อ สูตร) ภายใน 30 วัน

“กรมจะติดตามราคาจำหน่ายอย่างใกล้ชิด ถ้าพบว่ามีการกักตุน หรือจำหน่ายสินค้าในราคาแพงเกินสมควร จะมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และกรณีที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย มีโทษสูงสุดปรับไม่เกิน 10,000 บาท พบเห็นผู้ค้าเอาเปรียบ แจ้งได้ที่สายด่วนกรมโทร. 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัด จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ หากพบผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมายแน่นอน”