

- “จุรินทร์” แจงรวมกับ ”คนละครึ่ง” ประชาชนรับประโยชน์ 2 เด้ง
- มีเงินแค่ 1 พันบาท แต่ซื้อสินค้าได้สูงสุดถึง 6.6 พันบาท
- สั่งพาณิชย์จังหวัดตรวจสอบราคา หวั่นผู้ค้าไม่ลดจริง
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานเปิดงานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ ครั้งที่ 10 (Money Expo Hatyai 2020) ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ถึงการลดค่าครองชีพประชาชนว่า ขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้จัดทำโครงการ “พาณิชย์ ลดราคา! ช่วยประชาชน ล็อต 7” โดยร่วมกับผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบรโภค ผู้ประกอบการห้างค้าปลีก ค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ทั้งในกรุงเทพณและจังหวัดต่างๆ นำสินค้ากว่า 13,000 รายการ มาลดราคาขายสูงสุด 70% เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนทั่วประเทศ ตลอดเดือนพ.ย.นี้

“โครงการนี้ เมื่อมาบวกกับโครงการ คนละครึ่ง ผู้บริโภคก็ยิ่งได้ประโยชน์ 2 ต่อ คือ ถ้าสมมติว่า ประชาชนหยิบเงินของตัวเองมา 1,000 บาท มาซื้อสินค้า รัฐบาลก็จะช่วยเหลืออีกครึ่ง ก็จะมีเงินในกระเป๋า 2,000 บาท เวลามาซื้อสินค้าจากโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ลด 70% เงิน 2,000 บาท แทนที่จะซื้อของได้ 2,000 บาท ก็จะกลายเป็นซื้อได้ 6,600 บาท เท่ากับว่า ควักเงินตัวเองมา 1,000 บาท ได้ของกลับไป 6,600 บาท อันนี้คือมูลค่าเพิ่ม และจะเป็นการช่วยในเรื่องการกระตุ้นการบริโภคของพี่น้องประชาชน และจะมีผลต่อเศรษฐกิจของประเทศต่อไปด้วย”

ด้านนางมัลลิกา บุญมีตระกูลมหาสุข ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ กล่าวว่า นายจุรินทร์ ได้สั่งการให้ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และกรมการค้าภายใน ติดตามตรวจสอบการติดป้ายราคาสินค้า ในโครงการ “พาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชน ล็อต 7” เพื่อไม่ให้ผู้ค้าฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเอาเปรียบประชาชน
“ผู้ประกอบการที่ประกาศร่วมโครงการไปแล้ว ต้องลดราคาและแสดงป้ายลดราคาอย่างชัดเจนให้ประชาชนสังเกตได้ตรวจสอบราคาได้ รวมถึงได้เร่งรัดให้สำนักงานพาณิชย์แต่ละจังหวัด ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้ ไม่ให้เสียโอกาสในโครงการนี้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงใกล้ส่งท้ายปี กระทรวงพาณิชย์ก็จะมีข่าวดีช่วยประชาชนออกมาอย่างต่อเนื่อง หากมีปัญหาเรื่องป้ายราคา หรือสินค้าลดราคาไม่ตรงตามที่ประกาศไว้ สามารถโทร.แจ้งได้ที่สายด่วน 1569 กรมการค้าภายใน หรือโทร.แจ้งสำนักงานพาณิชย์จังหวัด” นางมัลลิกา กล่าว
