

- เพิ่มประสิทธิภาพปราบสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า–ลิขสิทธิ์
- ลั่นพบสินค้าต้องสงสัยแจ้งศุลกากรจัดการได้ทันที
- ใครฝ่าฝืนมีโทษหนักทั้งจำและปรับคาดมีผลใช้เร็วๆนี้
นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ม.ค.65 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เป็นสินค้าที่ต้องห้ามส่งออก ห้ามนำเข้า และห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาและกรมการค้าต่างประเทศ ร่วมกับกรมศุลกากรเสนอไป เพื่อสกัดกั้นสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์ไม่ให้ส่งออก นำเข้า และผ่านราชอาณาจักรนั้น จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ณ จุดผ่านแดน ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศคู่ค้าของไทยเข้ามาลงทุน และทำการค้ากับไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา (TRIPS) และข้อตกลงว่าด้วยหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่กำหนดให้บรรจุภัณฑ์ เช่น กล่องใส่สินค้าละเมิด ถือเป็นสินค้าละเมิดทรัพย์สินทาง ที่ห้ามส่งออก นำเข้า และนำผ่านเข้ามาในราชอาณาจักรด้วย รวมถึงช่วยป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดต่อชีวิต หรือทรัพย์สินทางปัญญาของประชาชนจากการบริโภคสินค้าละเมิด ซึ่งเป็นสินค้าด้อยคุณภาพ

ด้านนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า ร่างประกาศดังกล่าวกำหนดให้สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์ ห้ามส่งออก นำเข้า และผ่านราชอาณาจักร โดยเจ้าของสิทธิสามารถแจ้งกรมศุลกากรได้โดยตรง เพื่อให้พนักงานศุลกากรตรวจสอบสินค้าต้องสงสัยว่าจะเป็นสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า หรือละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ จากเดิมที่เจ้าของสิทธิต้องแจ้งผ่านกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อส่งข้อมูลไปยังกรมศุลกากร ทำให้สามารถกักสินค้าละเมิด ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หลังจากนี้ คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี (คกอ.) จะพิจารณาร่างประกาศต่อไป และจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

สำหรับผู้กระทำผิด กรณีฝ่าฝืนมาตรการห้ามส่งออก ห้ามนำเข้า ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 5 เท่าของสินค้าที่ส่งออกหรือนำเข้า หรือทั้งจำทั้งปรับ กับให้ริบสินค้า รวมทั้งสิ่งที่ใช้บรรจุและพาหนะใดๆ ที่ใช้ในการบรรทุกสินค้า ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดรวมทั้งพาหนะที่ใช้ลากจูงพาหนะบรรทุกสินค้านั้น ส่วนผู้ฝ่าฝืนมาตรการห้ามนำผ่าน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงิน 2 เท่าครึ่งของสินค้าที่นำผ่าน หรือทั้งจำทั้งปรับ กับให้ริบสินค้า รวมทั้งสิ่งที่ใช้บรรจุและพาหนะใดๆ ที่ใช้ในการบรรทุกสินค้าซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความผิดรวมทั้งพาหนะที่ใช้ลากจูงพาหนะบรรทุกสินค้านั้น

