

- ช่วงเทศกาลตั้งแต่ปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าความต้องการพุ่ง
- สินค้าที่มีโอกาสทั้งผลไม้อบแห้ง บิสกิต คุ้กกี้ ของแต่งบ้าน
- แต่ผู้ส่งออกต้องศึกษาตลาด กฎระเบียบให้ดีก่อนส่งออก
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครมุมไบ ประเทศอินเดีย รายงานว่า ในช่วงเทศกาลและพิธีการต่างๆ ในอินเดียที่เริ่มมาตั้งแต่เดือนต.ค.-ธ.ค.63 รวมถึงต้นปี 64 ที่มักจะมีพิธีการแต่งงานไปจนถึงสิ้นฤดูหนาวในเดือนมี.ค.64 มีโอกาสที่สินค้าในกลุ่มของหวาน ของใช้ในชีวิตประจำวัน ของตกแต่งบ้าน และเครื่องประดับ ที่เพิ่มยอดส่งออกได้ เพราะมีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยสินค้าที่ชาวอินเดีย นิยมซื้อหาเป็นของขวัญ เช่น ขนม ผลไม้ และช็อกโกแลตนำเข้า ส่วนสินค้าไทยนอกจากจะเป็นกลุ่มผลไม้อบแห้งแล้ว ยังมีสินค้าที่ไทยมีศักยภาพ คือ ขนมประเภทบิสกิต คุ้กกี้ ที่ชาวอินเดียนิยมบริโภคกับชานม ดังนั้น ผู้ผลิต ผู้ส่งออกของไทย ควรศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค และปรับสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาด ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสส่งออกได้

น.ส.สุพัตรา แสวงศรี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครมุมไบ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลเดือนต.ค.-ธ.ค. ของทุกปี จะเป็นช่วงที่มีการซื้อหาของขวัญและจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ในอินเดีย โดยอดขายในช่วงนี้จะมีสัดส่วนสูงถึง 35% ของยอดขายตลอดทั้งปีของธุรกิจค้าปลีก ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ราว 10% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และมีแรงงานในธุรกิจราว 8% ของการจ้างงานทั้งหมดประเทศ ดังนั้น จึงเป็นชวงที่มีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจอินเดีย

โดยจากข้อมูลพบว่า ในเดือนก.ย.63 ผู้บริโภคเริ่มจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ทำให้รัฐเก็บภาษีสินค้าและบริการ ได้เพิ่มขึ้น 4% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้า และในเดือนต.ค. ซึ่งมีเทศกาลนวราตรี และวันดุชเซห์รา พบว่า การบริโภคเพิ่มขึ้นเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะขนมประเภทต่างๆ อย่าง บิสกิต และคุ้กกี้ แบบไม่ใส่ไข่ ขนมแบบตุรกี ผลไม้อบแห้งแบบต่างๆ และช็อคโกแลต, อุปกรณ์ไฟฟ้า, อิเล็กทรอนิกส์, รถยนต์ เป็นต้น และยังคาดว่า ยอดขายรวมทั้งปี 63 จะเพิ่มขึ้นกว่า 41% จากปีก่อนหน้า โดยการซื้อสินค้า จะซื้อทางแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น เช่น Amazon , Flipkart , Reliance JioMart , Myntra , Pepperfry (เฟอร์นิเจอร์) , Nykaa (เครื่องสำอาง บำรุงผิวและบำรุงผม) และ FirstCry (สินค้าสำหรับเด็ก)

“ผู้ประกอบการไทย สามารถศึกษาสินค้าที่มีอยู่ในตลาดได้จากแพลตฟอร์มอออนไลน์ต่างๆ โดยนอกจากของหวานแล้ว ของขวัญที่นิยมให้กันอาจเป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน ของตกแต่งบ้าน และเครื่องประดับ ในขณะที่บริษัท และหน่วยงานต่างๆ ก็มักเตรียมของขวัญให้กับลูกค้าเช่นกัน ซึ่งสินค้าที่ไทยมีความได้เปรียบในแง่ฝีมือและการออกแบบ คือ ผลิตภัณฑ์เซรามิค ของใช้บนโต๊ะอาหาร รูปตกแต่งบ้าน ตุ๊กตาผ้า รวมทั้งกระเป๋าถือและกระเป๋าใส่เงิน เป็นต้น หากศึกษาตลาดให้ดี ก็จะมีโอกาสส่งออกได้เพิ่มขึ้น”
