พาณิชย์แจ้งข่าวดี!ไทยไม่มีตลาดขายของปลอมในลิสต์ของสหรัฐฯ

  • ทั้งตลาดการค้าปกติและตลาดออนไลน์
  • จากปีก่อนที่สหัฐฯระบุตลาดละ 1 แห่ง
  • เดินหน้าป้องกัน-ปราบปรามละเมิดต่อเนื่อง

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า เมื่อเดือนม.ค.64 ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) ได้เผยแพร่รายงานทบทวนรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงทั่วโลก ประจำปี 2563 ทั้งตลาดทั่วไปที่มีการขายสินค้าละเมิด และตลาดออนไลน์ โดยในปีนี้ ไม่มีรายชื่อย่านการค้า หรือศูนย์การค้ารวมถึงตลาดออนไลน์ของไทยปรากฏอยู่ในกลุ่มตลาดที่มีการละเมิดสูง (Notorious Markets) แม้แต่แห่งเดียว จากปี 62 ที่มีตลาดละ 1 แห่ง คือ ย่านพัฒน์พงษ์ และ www.shopee.co.th

“เป็นเรื่องน่ายินดีที่ปีนี้ไม่มีรายชื่อตลาดการค้า และตลาดออนไลน์ของไทย อยู่ในลิสต์ตลาดที่ขายสินค้าละเมิดสูงแม้แต่แห่งเดียว สะท้อนถึงการป้องกัน และปราบปรามการละเมิดอย่างจริงจังและต่อเนื่องของไทย ประกอบกับ การระบาดของโควิด-19 ทำให้การจำหน่ายสินค้าละเมิดลดลงมาก จนไม่พบการละเมิดเลย” 

อย่างไรก็ตาม กรมทรัพย์สินทางปัญญาและหน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมาย จะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ในการติดตามสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าละเมิดในย่านการค้าต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้นำสินค้าละเมิดกลับมาจำหน่ายอีก

ส่วนตลาดออนไลน์ของไทย ยังพบข้อมูลการจำหน่ายสินค้าละเมิดอยู่บ้าง ซึ่งกรมจะเร่งดำเนินการตามมาตรการป้องปราม ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ล่าสุด เมื่อเดือนม.ค.64 ได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับ 3 แพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำของไทย ได้แก่ Shopee, Lazada และ JD Central เพื่อระงับการจำหน่ายสินค้าละเมิดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ และสร้างองค์ความรู้เรื่องทรัพย์สินทางปัญญาให้แก่ผู้ค้าออนไลน์ ซึ่งจะช่วยสร้างความไว้วางใจของผู้บริโภค ในการซื้อของออนไลน์ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างประเทศในการเข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยมากยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ เพื่อให้การจัดทำรายงานทบทวนรายชื่อตลาดที่มีการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสูงทั่วโลกของ USTR ในอนาคตไม่ปรากฏรายชื่อตลาดละเมิดในไทย กรมจะหารือร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อให้รับทราบถึงมาตรการและการดำเนินการปราบปรามการละเมิด รวมทั้งความก้าวหน้าในระบบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาของไทย ซึ่งน่าจะมีส่วนช่วยทำให้ผลการจัดทำรายงาน ประจำปี 64 เป็นไปในเชิงบวกแก่ประเทศมากยิ่งขึ้น

ส่วนการทบทวนสถานะคู่ค้าด้านทรัพย์สินทางปัญญษ ตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษ ที่ USTR จะประกาศผลการทบทวนในช่วงปลายเดือนเม.ย.ของทุกปีนี้นั้น ในปีนี้ หวังว่าไทยจะยังคงอยู่ในประเทศที่ถูกจับตามอง (Watch List : WL) ต่อเนื่องอีกปี เพราะที่ผ่านมา ไทยดำเนินการป้องกันและปราบปรามการละเมิดอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง มีการแก้ปัญกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯในไทยลดลงอย่างต่อเนื่อง