พาณิชย์เร่งกระจายหน้ากากอนามัยสู่ประชาชนเต็มพิกัด

  • ทั้งผ่านเซ่น-มินิบิ๊กซี-โลตัส เอ็กซ์เพรสกว่าหมื่นสาขา
  • ยังไม่นับรวมร้านธงฟ้ากว่า1พันแห่งทั่วประเทศ
  • หวังประชาชนซื้อได้ทั่วถึงแต่จำกัดซื้อไม่เกินคนละ4ชิ้น

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงการกระจายหน้ากากอนามัยว่า กรมได้เร่งระดมคนจากทุกหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ช่วยบรรจุหน้ากากอนามัยใส่ถุงจำนวนถุงละ 4 ชิ้นๆ ละ 2.50 บาท รวมถุงละ 10 บาท เพื่อนำไปกระจายให้ถึงมือประชาชนทั่วประเทศ และได้เพิ่มการกระจายผ่านร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่น, มินิ บิ๊กซี, โลตัส เอ็กซ์เพรส รวมแล้วกว่า 10,000 สาขาทั่วประเทศ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้เปิดจำหน่ายที่กระทรวงพาณิชย์ทุกวันทำการตั้งแต่เวลา 09.30 -16.30 น. หรือจนกว่าหน้ากากอนามัยที่นำมาขายในแต่ละวันจะหมด และกระจายผ่านร้านธงฟ้าในจังหวัดต่างๆ ประมาณ 1,198 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ประชาชนหาซื้อหน้ากากอนามัยได้ง่ายขึ้น

สำหรับปริมาณหน้ากากอนามัย มีแนวโน้มดีขึ้นมาก หลังจากที่มาตรการทางกฎหมายได้บังคับใช้ ทั้งการกำหนดให้ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายแจ้งสต๊อกที่มีในครอบครอง ห้ามส่งออก และขอปันส่วนจากผู้ผลิต มาไว้ที่ศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัย ของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อกระจายต่อให้หน่วยงานที่มีความจำเป็นต้องใช้ก่อน และประชาชน คาดว่าทั้งเดือนก.พ.63 จะกระจายได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านชิ้น ส่วนเดือนมี.ค.63 จะมีหน้ากากอนามัยเข้ามายังศูนย์ฯ ไม่น้อยกว่า 15 ล้านชิ้น

ส่วนการดำเนินการกับผู้ที่ฉวยโอกาสค้ากำไรเกินควรนั้น ล่าสุด จับกุมแล้ว 48 ราย แบ่งเป็นในส่วนกลาง 39 ราย และต่างจังหวัด 9 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ มี 30 ราย ได้ส่งดำเนินคดีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 ในข้อหาค้ากำไรเกินควร มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายวิชัย กล่าวต่อถึงค่าบริการตรวจหาไวรัสโควิด-19 ซึ่งถือเป็นค่าบริการทางการแพทย์และห้องปฎิบัติการ (ห้องแล็บ) ของโรงพยาบาลว่า ขณะนี้ กรมอยู่ระหว่างการขอข้อมูลเกี่ยวกับค่าบริการดังกล่าวของโรงพยาบาลที่ให้บริการตรวจหาโควิด-19ในขณะนี้ หากโรงพยาบาลส่งข้อมูลมาให้แล้ว กรมจะนำมาเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของกรม www.dit.go.th เพื่อให้ประชาชนได้เปรียบเทียบราคาของโรงพยาบาลแต่ละแห่ง อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีประชาชนร้องเรียนว่าค่าตรวจโควิด-19 มีราคาแพง เพราะยังถือเป็นเรื่องใหม่มาก แต่หากมีประชาชนเข้าไปใช้บริการกันมากขึ้น ในสัปดาห์หน้า กรมฯจะเชิญโรงพยาลาลมาหารือ เพื่อให้คิดค่าใช้จ่ายที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย