- ดีเดย์เดือนก.ค.นี้เป็นต้นไปรวม 1 พันคันทั่วประเทศ
- บรรทุกข้าวสารอาหารแห้ง ของใช้ไปขายราคาถูก
- หวังเพิ่มรายได้-ลดค่าครองชีพ-ป้องกันโควิดระบาด
นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้จัดสรรงบประมาณเงินกู้สำหรับการแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 วงเงิน 161.32 ล้านบาท ให้กระทรวงพาณิชย์ เพื่อดำเนินโครงการรถ Mobile พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 76 จังหวัด ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ แล้ว โดยมีเป้าหมาย 1,000 คัน และจะเริ่มดำเนินโครงการได้ตั้งแต่เดือนก.ค.นี้เป็นต้นไป
“รถ Mobile จะนำสินค้าอุปโภคบริโภค ข้าวสารอาหารแห้งไปจำหน่ายให้กับประชาชนทั่วประเทศ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก และการบริโภคของประชาชน ให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า ให้กับเกษตรกรและผู้ผลิตในท้องถิ่น และเพิ่มการจ้างงาน เพราะจะมีจ้างรถกระบะในแต่ละพื้นที่ให้วิ่งขายของให้ด้วย รวมถึงลดค่าครองชีพให้ประชาชน เพราะสินค้าที่นำไปขาย บางรายการถูกกว่าท้องตลาด อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ประชาชนไม่ต้องออกไปซื้อของเอง โดยโครงการนี้ นำร่องไปแล้ว 3 จังหวัด คือ ขอนแก่น อุดรธานี และนครราชสีมา ตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา”
สำหรับสินค้าที่จะนำไปจำหน่าย จะพิจารณาตามความต้องการ และลักษณะการบริโภคของประชาชนในแต่ละพื้นที่ แต่หลักๆ จะมีทั้งข้าวสารบรรจุถุง ไข่ไก่ น้ำมันพืช น้ำตาลทราย ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซอสปรุงรส น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก สบู่ แชมพู ยาสีฟัน แปรงสีฟัน แป้งโรยตัว นมข้นหวาน กาแฟ รวมถึงสินค้าเกษตรต่างๆ ที่จะต้องเร่งระบายออกจากพื้นที่ เช่น ฟักทอง กระเทียม หอมหัวใหญ่ ที่มีปัญหาด้านราคา ส่วนจำนวนรถ Mobile จะพิจารณาจากความหนาแน่นของประชากรในแต่ละจังหวัด หากเป็นจังหวัดใหญ่ อาจมีมากกว่า 10 คันขึ้นไป จังหวัดเล็ก อาจมี 3-5 คัน
นายบุณยฤทธิ์ กล่าวต่อถึงโครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot ที่ 10 หรือรถ Mobile พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ตระเวนจำหน่ายสินค้าราคาถูกทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในชุมชนต่างราว 400-500 ชุมชน เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนพ.ค.64 เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ว่า ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก เพราะประชาชนนิยมซื้อมาก โดยสินค้าขายดีมีทั้งข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำตาลทราย โดยเฉพาะบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ในบางพื้นที่ต้องจำกัดการซื้อ เพราะขายเพียงซองละ 5 บาท จากราคาตลาดที่ซองละ 6 บาท ส่วนสินค้าอื่นๆ ที่ราคาพิเศษ เช่น อาหารสำเร็จรูป ลดสูงสุด 33%, ซอสปรุงรส ลดสูงสุด 28%, ของใช้ประจำวัน ลดสูงสุด 50%, สินค้าชำระร่างกาย ลดสูงสุด 60%, สินค้าสำหรับการซักล้าง ลดสูงสุด 54% เป็นต้น
