รัฐบาลชุดนี้ จะแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรที่ต้นตอ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้ที่คุ้มค่าต่อการเพาะปลูก ไม่เป็นภาระงบประมาณ
- แก้ปัญหาที่ต้นตอหวังเกษตรกรมีรายได้คุ้มทุน
- ชี้ราคาพืชสำคัญยุค “เศรษฐา” สูงกว่า 9 ปีก่อน 10-49%
- ทั้งข้าวเปลือก มัน ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน มะพร้าว ยางแผ่น
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลราคาสินค้าเกษตรไม่ให้ตกต่ำว่า ได้สั่งการให้นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ประชุมพาณิชย์จังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อกำชับให้ทุกภาคส่วนช่วยกันรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร
“รัฐบาลชุดนี้ จะแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรที่ต้นตอ เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้ที่คุ้มค่าต่อการเพาะปลูก โดยต้องไม่เป็นภาระด้านงบประมาณ ด้วยการมุ่งเน้นเพิ่มรายได้จากการพัฒนาขีดความสามารถของเกษตรกร การบริหารจัดการตลาดอย่างเป็นระบบ การลดภาระทางการเงิน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีแผนงานรองรับที่ชัดเจนต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลกได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ ราคาสินค้าเกษตรสำคัญทุกชนิด ปรับตัวดีขึ้นกว่าราคาเฉลี่ยในช่วงที่ผ่านๆ มา 10-49% โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ล่าสุด เดือนม.ค.67 ตันละ 14,700 บาท สูงขึ้น 1,385 บาท หรือ 10% จากราคาในช่วงก่อน หรือเฉลี่ย 9 ปีย้อนหลัง (ปี 58-66) ที่ตันละ 13,315 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 12,550 บาท สูงขึ้น 4,107 บาท หรือ 49% จากตันละ 8,443 บาท, ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 13,300 บาท สูงขึ้น 1,453 บาท หรือ 12% จากตันละ 11,847 บาท
ขณะที่มันสำปะหลัง เดือนม.ค.67 กิโลกรัม (กก.) ละ 3.65 บาท สูงขึ้น 1.15 บาท หรือ 46% จากกก.ละ 2.50 บาท, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กก.ละ 9.98 บาท สูงขึ้น 0.88 บาท หรือ 10% จาก กก.ละ 9.10 บาท, ปาล์มน้ำมัน กก.ละ 5.80 บาท สูงขึ้น 0.60 บาท หรือ 12% จากกก.ละ 5.20 บาท, มะพร้าวผลแก่ ผลละ 12.43 บาท สูงขึ้น 0.83 บาท หรือ 7% จากผลละ 11.60 บาท และยางแผ่นดิบชั้น 3 กก.ละ 55.19 บาท สูงขึ้น 7.99 บาท หรือ 17% จากกก.ละ 47.20 บาท
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ราคาสินค้าเกษตรดังกล่าวดีขึ้น อย่างข้าว เป็นเพราะรัฐบาลจับมือภาคเอกชนเร่งเจรจาซื้อขายข้าวกับญี่ปุ่น จีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย มั่นใจว่า การส่งออกได้เกินกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 8 ล้านตัน ส่วนผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ก็เร่งรัดส่งออก และหาตลาดใหม่เพิ่มเติม ส่งผลให้ราคาแป้งมันสำปะหลังไทย เดือนม.ค.67 เฉลี่ยอยู่ที่กก.ละ 20.03 บาท เพิ่มขึ้น 4.6% จากราคาเฉลี่ยปี 66 ที่กก.ละ 19.15 บาท
นอกจากนี้ ยังเร่งยกระดับผลผลิต และคุณภาพสินค้า โดยเร่งผลักดันพันธุ์ข้าวใหม่ ที่ตอบโจทย์ตลาดโลก ตั้งเป้าหมายภายในปี 70 จะผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวใหม่ให้ได้ 535,000 ตัน, ส่งเสริมการแปรรูป สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก ขณะเดียวกัน ยังมีมาตรการบริหารจัดการกลไกตลาด โดยวางแผนบริหารจัดการเชิงรุกในทุกสินค้าก่อนปัญหาเกิด ช่วยลดต้นทุนปุ๋ย ลดต้นทุนด้านการเงินด้วยมาตรการพักชำระหนี้ให้เกษตรกร เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นน้ำ และบริการจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพ เป็นต้น
