

- ”ภูมิธรรม” เผยตั้งเป้าส่งออกไม่ต่ำกว่า 7.5 ล้านตัน
- นำร่องเจรจาขายจีทูจี-เอกชนอินโดนีเซีย 2 ล้านตัน
- จี้กรมการค้าต่างประเทศเร่งปิดดีลขายจีน 2.8 แสนตัน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ปี 67 ตั้งเป้าหมายการส่งออกข้าวไม่ต่ำกว่าเป้าหมายปี 66 ที่ 7.5 ล้านตัน ซึ่งยังไม่รวมการส่งออกแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และเน้นการเพิ่มระดับราคาข้าวให้มากขึ้น โดยจะเดินหน้าเจรจาขายทั้ง จีทูจี และเอกชน ซึ่งในส่วนของการขายข้าวกับอินโดนีเซียนั้น ล่าสุด ได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ ดำเนินการเจรจาขาย จีทูจี 1 ล้านตัน และเจรจาขายแบบเอกชนอีก 1 ล้านตัน ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้เห็นชอบ หลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้เจรจาขายข้าวให้กับประธานาธิบดีอินโดนีเซียนก่อนหน้านี้ ซึ่งวันที่ 18-19 ม.ค.นี้ กรมการค้าต่างประเทศ จะเดินทางไปขายข้าวที่อินโดนีเซีย
“ปี 66 คาดว่า จะส่งออกข้าวได้ 8.5 ล้านตัน สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 7.5 ล้านตัน ส่วนปีนี้ เราต้องเร่งทำตลาดส่งออก โดยจะเริ่มนำร่องตลาดอินโดนีเซียก่อน ให้กรมการค้าต่างประเทศ ไปคุยกับบูลล็อก หน่วยงานนำเข้าข้าวของอินโดฯก่อน ลองดูเงื่อนไขเค้า เราจะทำจีทูจี 1 ล้านตัน เอกชน 1 ล้านตัน”
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การขายข้าวแบบจีทูจี กังวลว่า คนจะยึดติดภาพเดิม ที่รัฐไปขายเองในราคาถูก แต่อยากให้มองใหม่ เพราะได้ปรับเปลี่ยนเป็นภาครัฐนำ ภาคเอกชนตาม โดยรัฐจะไปเป็นประกันให้ว่าถ้าซื้อจีทูจี จะมีข้าวส่งมอบแน่นอน รัฐบาลเป็นหัวหอกไปเจรจา แต่เอกชนเป็นผู้สนับสนุน
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศ เร่งรัดการขายข้าวแบบจีทูจีกับคอฟโก้ รัฐวิสาหกิจของจีนในส่วนที่เหลืออีก 280,000 ตัน จากสัญญาทั้งหมด 1 ล้านตันให้เสร็จโดยเร็ว และยังมีแผนจะเจรจาขายข้าวกับอีกหลายประเทศ เช่น ซาอุดิอารเบีย ภูมิภาคแอฟริกา ภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมถึงอิหร่าน อีกทั้งระหว่างวันที่ 17-22 ม.ค.นี้ ตนจะนำคณะเดินทางไปเจรจาขยายตลาดข้าวที่นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา
สำหรับการส่งออกข้าวช่วง 11 เดือน (เดือนม.ค. – พ.ย.) ปี 66 มีปริมาณ 7.94 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 14.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่า 159,550.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.9% โดยตลาดส่งออกข้าวไทย อันดับ 1 ได้แก่ อินโดนีเซียน 1.27 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2,144.7% ตามด้วยแอฟริกา 876,184 ตัน เพิ่มขึ้น 26.6%, อิรัก 814,805 ตัน ลดลง 44.2%, สหรัฐฯ 648,946 ตัน เพิ่มขึ้น 8.9% และจีน 367,204 ตัน ลดลง 44%