

- ปี 64 จัดงาน Thai Fruits Golden Months ใน 14 เมือง
- คาดมียอดเจรจาการค้าเพิ่มไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 63
- สินค้ายอดนิยมมีทั้งผลไม้สด-อบแห้ง น้ำผลไม้ ขนม
นายวิทยากร มณีเนตร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 64 กรมมีแผนจัดโครงการ Thai Fruits Golden Months ในประเทศจีนต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยจะจัดในเมืองต่างๆ ที่ได้จัดไปแล้วในครั้งแรก และได้รับผลตอบรับดี รวมถึงจะเพิ่มการจัดไปยังเมืองรอง ที่เป็นตลาดใหม่ทางตอนกลางของจีนที่มีศักยภาพ รวมทั้งสิ้น 14 เมือง ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ กวางโจว ฝอซาน จ้านเจียง อู่ฮั่น ชิงต่าว ต้าเหลียน เซี้ยะเหมิน หนานชาง หนานหนิง ฉางชา คุนหมิง เฉิงตู และฉงชิ่ง คาดว่าจะช่วยให้มูลค่าการค้าเจรจาการค้าเติบโตอย่างน้อย 10% จากการจัดงานครั้งแรกที่มีมูลค่าเจรจาการค้ารวมทั้งสิ้น 816.27 ล้านบาท โดยสินค้าขายดี เช่น ผลไม้สด (มะพร้าว ทุเรียน มังคุด ส้มโอ ชมพู่ขนุน สับปะรด มะม่วง ลำไย น้อยหน่า เงาะ กล้วยไข่) น้ำผลไม้ ผลไม้อบแห้ง/อบกรอบ ขนมรสทุเรียน และขนมขบเคี้ยวเป็นต้น

“ในปี 63 สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ หนานหนิง ชิงต่าว ฮ่องกง เฉิงตูเซี่ยงไฮ้ เซี่ยเหมิน กวางโจว คุนหมิง ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมดังกล่าว 12 ครั้ง ใน 11 เมือง ได้แก่ หนานหนิง ชิงต่าวฮ่องกง เฉิงตู ฉงชิ่ง ซีอาน เซี่ยงไฮ้ เซี้ยะเหมิน กวางโจว เซินเจิ้น และคุนหมิง มีมูลค่าเจรจาการค้าจากกิจกรรมทั้งสิ้น816.27 ล้านบาท แบ่งเป็นสั่งซื้อทันที 202.02 ล้านบาท และภายใน 1 ปี อีก 614.25 ล้านบาท โดยสินค้าศักยภาพที่ได้รับความนิยม เช่น ผลไม้สด (มะพร้าว ทุเรียน มังคุด ส้มโอ ชมพู่ ขนุน สับปะรด มะม่วง ลำไย น้อยหน่า เงาะ กล้วยไข่) น้ำผลไม้ ผลไม้อบแห้ง/อบกรอบ ขนมรสทุเรียน และขนมขบเคี้ยว เป็นต้น”

ส่วนการจัดกิจกรรมส่งเสริมสินค้าไทยในประเทศอื่นๆ นั้น ในปี 64 จะเน้นการจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์เพื่อเพิ่มโอกาสการเจรจาการค้าให้แก่ผู้ส่งออกผลไม้ไทย จำนวน 4 กิจกรรม โดยมี สคต. ที่ตั้งอยู่ทั่วโลกเป็นคนกลางจัดหาคู่เจรจาการค้าที่เหมาะสม เน้นสินค้าผักผลไม้สดและแปรรูป รวมถึงสินค้าฮาลาล กำหนดจัดในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.64 เดือนละ 1 ครั้ง และดือนก.ค.64 อีก 1 ครั้ง นอกจากนี้ ยังมีโครงการจัดส่งเสริมการขายสินค้าไทย ร่วมกับห้างสรรพสินค้า ห้างโมเดิร์นเทรด และผู้นำเข้าทั่วโลก โดยเน้นเจาะตลาดจีน กลุ่มฮิสแปนิค (เชื้อสายสเปน) ในสหรัฐฯากลุ่มประเทศเบเนลักซ์ ซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายที่มีศักยภาพ และยังจะจัดงานแสดงสินค้าแบบไฮบริด ผ่านทั้งทางออนไลน์ และออฟไลน์