

- หลังโควิด-19ระบาดหนักทำเดินทางไปขายสินค้าไม่ได้
- หันค้าขายออนไลน์-เจรจาการค้าแบบเทเลคอนเฟอร์เรนซ์
- ลุยสื่อโซเชียลสร้างเชื่อมั่นนำเข้าจากไทยเหมือนเดิม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมมอบนโยบายการทำงานให้กับทูตพาณิชย์ไทยที่ประจำประเทศต่างๆ ทั่วโลกว่า การประชุมวันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกของไทยในปีนี้ ภายใต้ปัจจัยเสี่ยง ทั้งเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัว สงครามการค้ายังไม่จบ ภัยแล้งที่ส่งผลให้ผลผลิตสินค้าเกษตรลดลง รวมถึงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดังนั้น จึงจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ในการส่งเสริม และผลักดันการส่งออกในปีนี้ใหม่ เพื่อให้มูลค่าการส่งออกขยายตัวได้ตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ 3% เมื่อเทียบกับปี 62 หรือให้ขยายตัวได้มากที่สุด
สำหรับกลยุทธ์เชิงรุกที่จะนำมาใช้ในขณะนี้ เช่น การเน้นค้าขายผ่านออนไลน์มากขึ้น เพราะขณะนี้ ผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศกลุ่มเสี่ยงของการแพร่ระบาด เลี่ยงการเดินทางออกนอกบ้าน จึงสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น ดังนั้น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะเดินหน้าเจรจากับแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ระดับโลก เพื่อเปิดห้องขายสินค้าไทยในแพลตฟอร์มเหล่านั้น อย่าง Tmall ของจีน และกำลังจะเจรจากับแพลตฟอร์มอื่นๆ อีก, Bigbasket ของอินเดีย, Amazon ของสหรัฐฯ เป็นต้น
นอกจากนี้ จะบุกจัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางเจรจาการค้ากับประเทศต่างๆ ซึ่งตนมีเป้าหมายจะเป็นหัวหน้าคณะเดินทางไป 18 ประเทศ แต่ขณะนี้บางประเทศอาจต้องเลื่อนการเดินทางออกไปก่อนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19, รวมถึงการประชาสัมพันธ์ในประเทศที่มีความอ่อนไหวผ่านทุกช่องทาง โดยเฉพาะสื่อโซเชียลมีเดีย เช่น สหรัฐฯ สหภาพยุโรป ฯลฯ เพื่อให้เชื่อมั่นนำเข้าสินค้าไทย และย้ำให้เห็นว่า ยังคงนำเข้าสินค้าจากไทยได้เหมือนเดิม เพราะการผลิตสินค้าไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สินค้าไทยยังมีคุณภาพ มาตรฐานเช่นเดิม
”ถ้าการระบาดยังไม่จบภายใน 3 เดือนนับจากนี้ ก็ต้องมาปรับกลยุทธ์กันใหม่อีก เพื่อทำให้แผนผลักดันการส่งออกทันกับการเปลี่ยนแปลง ถ้าไม่ปรับใหม่ก็ไม่ทันกิน ส่วนเป้าหมายมูลค่าส่งออกของไทยในปีนี้ ต้องยึดตามเป้าหมายของรัฐบาลที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแล้วคือ ขยายตัว 3% ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไร ก็เป็นเรื่องที่กระทรวงการคลัง และสภาพัฒน์ ต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงพาณิชย์ คงจะไปปรับเปลี่ยนคนเดียวไม่ได้”
ด้านนายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จากการระบาดของโควิด-19 ทำให้กรมเดินทางไปเจาะตลาดในบางประเทศไม่ได้ โดยเฉพาะประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง ไต้หวัน ฯลฯ ดังนั้น นอกจากการเน้นทำตลาดออนไลน์แล้ว ยังจะมีการเจรจาการค้ากับผู้ซื้อผ่านเทเลคอนเฟอร์เรนซ์ด้วย
ส่วนนายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนมองว่า การส่งออกของไทยในปีนี้น่าจะไม่ขยายตัว และน่าจะ ติดลบ 1% ถึงติดลบ 2% เมื่อเทียบกับปีก่อน เพราะนอกจากจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกแล้ว ยังมีปัญหาภัยแล้งในประเทศที่ทำให้ผลผลิตเกษตรกรลดลง อย่าง ข้าว ทำให้ส่งออกได้น้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากการประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมร่วมกับทูตพาณิชย์ของไทยที่ประจำอยู่ประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศกลุ่มเสี่ยง ดังนั้น จึงมีการตรวจวัดไข้ของผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน และมีการสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันความเสี่ยง ส่วนภายหลังจากการประชุมเสร็จสิ้น กระทรวงพาณิชย์จะมีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่ห้องประชุม และเช็ดทำความสะอาด ที่โต๊ะ เก้าอี้ รวมถึงไมโครโฟนด้วย

