พาณิชย์ถกด่วนแก้ปัญหาข้าวเหนียวแพง-ขาดตลาด

  • สั่งเข้มโรงสี-ผู้ค้ารายงานสต๊อกดีเดย์ 26 ส.ค.นี้
  • หวั่นกักตุนจนทำให้เกิดภาวะขาดแคลน-หาซื้อยาก
  • เตรียมทำข้าวถุงราคาถูกให้สิทธิ์ผู้ถือบัตรคนจนซื้อก่อน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า วันนี้ (25 ส.ค.) ได้หารือเป็นการด่วนกับคณะที่ปรึกษาและนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เพื่อหาแนวทางในการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้บริโภคข้าวเหนียว เนื่องจากขณะนี้ ข้าวเหนียวหาซื้อยาก และราคาปรับตัวสูงขึ้น เป็นผลมาจากผลผลิตข้าวเหนียวออกสู่ตลาดน้อยจากภาวะภัยแล้ง และเป็นช่วงปลายฤดู จึงได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน กำหนดให้โรงสี ผู้ประกอบการค้าข้าวเหนียวและผู้เกี่ยวข้อง รายงานสต๊อกข้าวเหนียวในครอบครอง เพื่อป้องกันการกักตุน ตั้งแต่วันที่ 26 ส.ค.นี้ เนื่องจากข้าวเหนียวเป็นสินค้าควบคุม รวมทั้งให้อธิบดีกรมการค้าภายในหารือกับโรงสี สหกรณ์และผู้ค้าข้าว เพื่อหาความร่วมมือในการผลิตข้าวสารเหนียวบรรจุถุงในราคาพิเศษและเป็นการตรึงราคาข้าวเหนียวบริโภคเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้มากที่สุด

ด้านนายวิชัย กล่าวว่า ในวันที่ 26 ส.ค.นี้กรมการค้าภายในจะออกประกาศให้โรงสี ผู้ประกอบการข้าวเหนียว แจ้งสต๊อกข้าวเหนียว เพื่อดูปริมาณข้าวเหนียว ซึ่งห้ามมีการกักตุนสินค้าอย่างเด็ดขาด หากพบว่าผู้ประกอบการหรือโรงสีรายใดมีการกักตุนจะดำเนินการตามกฎหมายขึ้นเด็ดขาดตามกฎหมายการค้าข้าวและกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 ซึ่งจะมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จากนั้นก็จะหาแนวทางลดค่าใช้จ่ายของผู้บริโภค พร้อมกันนี้จะร่วมมือกับผู้ประกอบการผลิตข้าวถุง เพื่อจำหน่ายข้าวสารเหนียวราคาถูกเพื่อจำหน่ายให้กับผู้มีรายได้น้อย โดยเบื้องต้นน่าจะวางขายทีาร้านธงฟ้าประชารัฐ วิสากิจชุมชน และจะให้สิทธิกับผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อน โดยกระทรวงพาณิชย์จะดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายและการขนส่งให้

“ราคาข้าวเหนียวในปัจจุบันจากอยู่ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 40-47 บาท จากเดิม 36-37 บาท ถือว่าสูงขึ้นถึง 30% เพราะผลผลิตข้าวเหนียวออกสู่ตลาดน้อยจากปัญหาภัยแล้ง ชาวนาก็เก็บข้าวเหนียวไว้บริโภคเอง ไม่ปล่อยออกสู่ตลาด แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายภายในเดือนต.ค. หลังผลผลิตฤดูกาลใหม่ทยอยออกมา “นายวิชัย กล่าว