พาณิชย์จับมืออาเซียนเดินหน้าอัพเกรด”เอฟทีเอ”

  • หลังบังคับใช้มาหลายปีหวังทำให้ทันสมัย
  • ตั้งเป้าเจรจาจีน-อินเดีย-เกาหลี-ออสซี่-กีวี
  • ให้ลด/เลิกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกษตร-ผลไม้

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมทบทวนและปรับปรุงความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ของไทยกับคู่เจรจา เพื่อให้มีการเปิดเสรีเพิ่มเติม หรือเพิ่มข้อบทใหม่ๆ เพื่อให้ความตกลงทันกับสภาพแวดล้อมและรูปแบบทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมีเอฟทีเอที่จะทบทวน คือ อาเซียน-จีน, อาเซียน-อินเดีย, อาเซียน-เกาหลีใต้, อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ เป็นต้น เพราะบังคับใช้มานานแล้ว โดยจะผลักดันให้คู่เจรจาเปิดเสรีเพิ่มเติมในสินค้าอ่อนไหว และอ่อนไหวสูง ที่ยังเก็บภาษีสูง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสินค้าเกษตร

สำหรับเอฟทีเออาเซียน-จีน จะหารือเปิดตลาดสินค้าเพิ่มเติม โดยเฉพาะสินค้าอ่อนไหว ที่ยังคงเก็บภาษีนำเข้าที่ 0-5% และสินค้าอ่อนไหวสูง ที่ยังเก็บภาษีไม่เกิน 50% โดยมีสินค้าที่อยู่ในเป้าหมาย คือ ข้าว น้ำตาลทราย ข้าวโพด พืชน้ำมัน ยางพารา และปาล์ม ส่วนอาเซียน-อินเดีย จะผลักดันให้ลดภาษีสินค้าเพิ่ม คือ น้ำมันปาล์ม ปัจจุบันภาษีสูงถึง 40-50% ยางพารา อาหาร ชิ้นส่วนยานยนต์ และปิโตรเคมี, อาเซียน-เกาหลีใต้ จะเจรจาเปิดเสรีสินค้าอ่อนไหวเพิ่มเติม เช่น ข้าว น้ำตาลทราย มันสำปะหลัง ผลไม้ เช่น ทุเรียน มังคุด มะม่วง เป็นต้น

ขณะที่เอฟทีเออาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ จะหารือถึงการเปิดเสรีเพิ่มในสินค้าบริการ และลงทุน รวมถึงหารือประเด็นใหม่ๆ เช่น พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ พิธีการศุลกากร การอำนวยความสะดวกทางการค้า ซึ่งไทยจะผลักดันให้เปิดเสรีบริการที่เกี่ยวกับโรงแรม ร้านอาหาร การท่องเที่ยว

“การทบทวนเอฟทีเอรอบนี้ ส่วนใหญ่จะอัพเกรดการเปิดเสรีการค้าสินค้า เพราะหลายประเทศยังเก็บภาษีนำเข้าสูงอยู่ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ซึ่งไทยจะผลักดันให้คู่เจรจาลดภาษี เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย ในทางกลับกัน คู่เจรจาต้องการให้อาเซียน และไทยลดภาษีสินค้าอ่อนไหว และอ่อนไหวสูงเช่นกัน อย่างอินเดีย สนใจให้ไทยลดภาษีผลิตภัณฑ์ทองแดง สารให้ความหอม, เกาหลี สนใจปิโตรเคมี หรือจีน สนใจข้าว น้ำตาล อาหาร ซึ่งไทยยังเก็บภาษีสูงกว่า 50% คาดจะเริ่มต้นเจรจาในปีหน้า แต่ไม่ได้ตั้งเป้าหมายจะเสร็จเมื่อไร”