
- จัดงาน Thai Fair ใน 115 สาขาของห้าง Beisia
- ขนสินค้าเกษตร-อาหารให้เลือกชม ช้อป ชิมไม่อั้น
- ผู้บริโภคแห่ซื้อเพิ่มช่องทางขายสินค้าให้เกษตรกร
นายกิตติวัฒน์ ปัจฉิมนันท์ อัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว เปิดเผยว่า สำนักงานได้เดินหน้าขยายตลาดสินค้าไทยเข้าสู่เมืองรองของประเทศญี่ปุ่น ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ โดยได้ร่วมมือกับซุปเปอร์มาร์เก็ต Beisia ในภูมิภาคตะวันออก (คันโต) และตอนกลางของญี่ปุ่น (จูบุ) 115 สาขา จัดกิจกรรม Thai Fair ระหว่างวันที่ 14-27 ก.ค.64 เพื่อประชาสัมพันธ์และจำหน่ายสินค้าไทย โดยการจัดงานดังกล่าว เป็นการต่อยอดหลังจากจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ ระหว่าง Beisia กับผู้ส่งออกไทย เมื่อช่วงเดือนพ.ย.63 และเดือนมี.ค.64 และได้ตกลงซื้อสินค้าไทย เพื่อนำมาจำหน่ายผ่านสาขาของ Beisia

สำหรับสินค้าสำคัญที่ Beisia ได้ซื้อจากผู้ส่งออกไทย เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวเหนียว น้ำผลไม้ ผลไม้สด (มะม่วง ทุเรียน มังคุด กล้วย) ผลไม้อบแห้ง อาหารกระป๋อง (ปลาแมกเคอเรล ทูน่า ข้าวโพดอ่อน) เครื่องปรุงอาหารไทย อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน ถั่วแระ และไก่แปรรูป เป็นต้น นอกจากนี้ Beisia ยังได้จัดแคมเปญพิเศษ เมื่อซื้อสินค้าไทยที่ร่วมรายการเกิน 3,000 เยน จะได้รับสิทธ์ลุ้นรับคะแนนสะสมจากแอปพลิเคชัน Beisia เป็นของรางวัล

“การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ สำนักงานได้นำมาสคอตการ์ตูนคาแรคเตอร์ผลไม้ไทยมาร่วมสร้างสีสันและเชิญชวนให้ผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นซื้อสินค้าไทย ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก มีผู้บริโภคจำนวนมากเข้ามาชม และเลือกซื้อสินค้าไทย โดยเฉพาะผลไม้และสินค้าเกษตร ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ โดยสินค้าที่จำหน่ายเป็นการเฉพาะภายในช่วงการจัดกิจกรรมครั้งนี้ เช่น มะม่วง กล้วย มังคุด ทุเรียน ถั่วแระ ข้าวโพดอ่อน จากจังหวัดเชียงใหม่ ตาก ราชบุรี ชุมพร นครปฐม ศรีษะเกษ จันทบุรี ชลบุรี นครนายก เป็นต้น ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มรายได้ และขยายตลาดสินค้าให้กับเกษตรกรของไทยด้วย”

ทั้งนี้ ปัจจุบัน Beisia มีสาขาทั้งหมด 141 สาขา ใน 15 จังหวัด กระจายตามภูมิภาคต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น มียอดขายกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปี โดยที่ผ่านมา ได้นำเข้าสินค้าไทยประมาณ 500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งความร่วมมือที่เกิดขึ้น นอกจากจะทำให้ไทยส่งออกสินค้าเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นได้เพิ่มขึ้นแล้ว ยังทำให้สินค้าของไทยเจาะเข้าสู่ผู้บริโภคในเมืองรองต่าง ๆ ของญี่ปุ่นได้ด้วย










