พร้อมรับมือกับความท้าทาย “เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้” โชว์ผลงานช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ กวาดรายได้ 15,840 ลบ.

  • พร้อมคงเป้า 20,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2563 นี้
  • ชูวิสัยทัศน์-กลยุทธ์ ขับเคลื่อนองค์กรด้วย One Platform 
  • เดินหน้าเสริมความยืดหยุ่น ความทนทาน ให้องค์กร
  • ลั่นพร้อมยืนหยัด ในธุรกิจอสังหาฯ ในทุกสภาวะการณ์

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากก้าวแรกของความสำเร็จในการสร้างแพลตฟอร์มธุรกิจที่รวม 3 กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ศักยภาพสูงเข้าไว้ด้วยกันทำให้ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย เป็นผู้ให้บริการอสังหาริมทรัพย์รายแรกที่พลิกโฉมวงการอสังหาฯไทยด้วยการสร้างแนวทางของการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เพื่อการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน พร้อมที่จะรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ โดยกลยุทธ์ One Platform จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตต่อไป และบริษัทมั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้รวมตามเป้าหมายที่ 20,000 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2563 ได้อย่างแน่นอน

ธนพล ศิริธนชัย

ทั้งนี้ท่ามกลางสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนทางธุรกิจ บริษัทยังคงสามารถรักษาระดับรายได้รวมในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2563 (ม.ค.-ก.ย.) ในอัตราคงที่ในจำนวน 15,840 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิจำนวน 2,532 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 7.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็นผลสืบเนื่องจากการให้ความสำคัญในการบริหารจัดการเงินทุน เพื่อรักษาเสถียรภาพและรองรับแผนธุรกิจ โดยบริษัทสามารถคงสภาพคล่องทางการเงินที่แข็งแกร่งจากพอร์ตการลงทุนที่สมดุล ครอบคลุมกลุ่มสินทรัพย์หลายประเภทที่สามารถสร้างกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง และกระจายความเสี่ยงได้ดีภายใต้ภาวะตลาดผันผวน 

นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างดีจากผู้ถือหุ้น สถาบันการเงิน และนักลงทุน เห็นได้จากความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นรายเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) เมื่อช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเกินความคาดด้วยยอดเงินระดมทุนจำนวน 3,207 ล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนและขยายธุรกิจต่อไปในอนาคต โดยมีแนวทางการบริหารเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมดำรงไว้ซึ่งอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนทุนในระดับที่เหมาะสม ดังจะสะท้อนได้จากการประเมินเครดิตเรตติ้งของทริส ยังคงจัดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ที่ระดับ A- แนวโน้มคงที่ แสดงถึงฐานะทางการเงินที่มั่นคงของบริษัท

นายธนพล กล่าวว่า ในส่วนของกลุ่มธุรกิจ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ในรอบ9 เดือนของปี 2563 อยู่ที่ 11,058 ล้านบาท แม้ว่าในระยะที่ผ่านมาจะต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์โควิด-19 และปัญหาเศรษฐกิจ แต่แนวโน้มธุรกิจอสังหาฯเพื่อที่อยู่อาศัย ยังคงมุ่งขยับไปในทิศทางที่ดี ด้วยลูกค้าเล็งเห็นความจำเป็นของที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์ด้านคุณภาพชีวิตได้อย่างลงตัว ส่งผลให้ดีมานด์ของทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยวฟื้นตัวดีขึ้น โดยปัจจุบัน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม นับเป็นผู้นำอันดับ ท็อป 5 ของประเทศ

ทั้งนี้สำหรับกลุ่มธุรกิจเพื่อที่อยู่อาศัย มีโครงการที่พักอาศัยคุณภาพสูงรวม 59 โครงการ ในหลายทำเล โดยพร้อมเปิดอีก 3 โครงการในช่วงสิ้นปีนี้ รวมทั้งสิ้น 62 โครงการ มูลค่ารวม 78,000 ล้านบาท อีกทั้งเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮมยังมียอดพรีเซลล์โครงการมูลค่ารวม 25,000 ล้านบาท มีแบ็คล็อครอการโอนมูลค่า 2,400 ล้านบาท

ด้านกลุ่มธุรกิจ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล ได้บันทึกรายได้ประจำจากค่าเช่าพื้นที่จำนวน 1,331 ล้านบาทในรอบ 9 เดือนแรกปีนี้ โดยมีอัตราการเช่าพื้นที่สูงขึ้น 81% เมื่อเร็วๆนี้ ยังได้เพิ่มพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการให้แก่พอร์ตโฟลิโอ ด้วยการส่งมอบโครงการศูนย์กระจายสินค้า Omnichannel แห่งแรกของ เซ็นทรัล รีเทล พื้นที่รวมกว่า75,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) และศูนย์กระจายสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิของ ฮาวี ลอจิสติกส์ (ประเทศไทย) ขนาดพื้นที่ 30,000 ตร.ม. 

พร้อมกับขยายฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ และซัพพลายเชน ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากสถานการณ์โควิด-19 อีกทั้งได้รับอานิสงค์จากความต้องการย้ายฐานการผลิตของผู้ประกอบการที่สนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย  นอกจากนี้ ในเดือนกันยายน 2563 ยังมีรายการขายสินทรัพย์มูลค่า 2,800 ล้านบาทให้แก่กองทรัสต์ FTREIT โดยบริษัทฯ รับรู้กำไรจากการจำหน่ายในจำนวน 1,321 ล้านบาท

ท้ายสุดคือกลุ่มธุรกิจ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล โดยมีรายได้รอบ 9 เดือนแรกของปีนี้ จำนวน 724 ล้านบาท โดยในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการให้ความช่วยเหลือให้แก่ผู้เช่าสำนักงานและศูนย์การค้า ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ตามความเหมาะสม โดย ณ วันที่ 30 ก.ย. 2563 มีอัตราการเช่าโดยรวมของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารที่ 93% โดยปัจจุบัน เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล มีโครงการทั้งสิ้น 5 แห่ง คิดเป็นพื้นที่รวม241,000 ตร.ม. และมีจำนวนห้องของโรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ 1,100 ห้อง 

ทั้งนี้ล่าสุด โครงการสามย่านมิตรทาวน์ สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศจากการประกวด International Property Awards – Asia Pacific Property Awards 2020-2021 และ มิตรทาวน์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์ ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารอนุรักษ์พลังงานลีด (Leadership in Energy and Environmental Design : LEED) ของสภาอาคารเขียวสหรัฐอเมริกา (U.S. Green Building Council : USGBC) ระดับโกลด์ (GOLD) มาครองได้อีกด้วย