ฝุ่น PM 2.5 ระดับไหนร่างกายถึงเกิดปัญหา มารู้จัก 4 สี 4 ระดับ และวิธีป้องกันฝุ่นพิษ

แทบทุกวันในช่วงนี้ ทุกคนคงได้ยินข่าว และได้เห็นกับตาถึงฝุ่นละอองจำนวนมากที่ ทำให้้ท้องฟ้าในเมืองใหญ่ๆ ในประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ขะมุกขะมัวกลายเป็นสีเทา

โดยทุกวันทางการจะประกาศปริมาณฝุ่นในแต่ละพื้นที่เพื่อให้ผู้ที่อยู่อาศัย เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝุ่นที่อาจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่คุณภาพอากาศแบบไหน และปริมาณฝุ่นที่แตกต่าง บอกอะไร วันนี้ เรามี 4 สี 4 ระดับของปริมาณฝุ่น ตั้งอต่ออากาศดี ถึงเลวร้าย เพื่อสามารถเข้ามต แะละตรียมพร้อมได้ในทุกเช้าของทุกวัน

ระดับแรก สีฟ้า หรือ ระดับ PM 2.5 อยู่ที่ 0-37

ระดับนี้ถือเป็นระดับปกติ หรือคุณภาพอากาศดี สามารถอยู่อาศัยได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ผู้ที่มีโรคประจำตัวทางเดินหายใจ และคนที่ไ่ม่มรโครประจำตัว สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ

ระดับที่ 2 สีเหลือง หรือ ระดับ PM 2.5 อยู่ที่ 38-50

ระดับนี้ ถือว่าคุณภาพของอากาศอยู่ในระดับดี ถึงปานกลาง ซึ่งหากเป็นผู้ไม่เป็นโรคประจำตัว หรือโรคทางเดินหายใจ ยังสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ แต่หากเป็นโรคประจำตัว หรือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ให้เริ่มลดเวลาในการทำกิจกรรมกลางแจ้งลง เพื่อไม่ให้ไปกระตุ้นโรคประจำตัว

ระดับที่ 3 สีส้ม หรือ ระดับ PM 2.5 อยู่ที่ 51-90

ระดับนี้ ถือว่า เป็นคุณภาพอากาศที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัว โรคทางเดินหายใจ หรือไม่มีโรคประจำตัว ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง และให้สวมหน้ากากอนามัยในที่ที่มีฝุ่นกระจายตัว หรือเมื่อรู้สึกจำเป็น โดยผู้ที่มีโรคประจำตัวควรติดตามอาการของตัวเอง และหากเกิดอาการผิดปกติ เช่น หายใจลำบาก แน่นหน้าอก ใจสั่น วิงเวียน ให้พบแพทย์เพื่อตรวจอาการ

ระดับที่ 4 สีแดง หรือ ระดับ PM 2.5 อยู่ที่ 91 ขึ้นไป

คุณภาพอากาศระดับนี้ ถือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยให้หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหนัก หรืออกกำลังกายกลางแจ้งเด็ดขาด สวมหน้ากากที่ป้องกัน PM 2.5 ได้ตลอดเวลาที่อยู่กลางแจ้ง และเมื่ออยู่ในที่พัก ให้ปิดหน้าต่าง ประตูป้องกันฝุ่นเข้ามา รวมทั้งเปิดใช้เครื่องฟอกอากาศ ถ้ามี

ทั้งนี้ การสวมใส่หน้ากากที่ป้องกัน PM 2.5 ได้ หรือ หน้ากาก N95 ที่ถูกต้องจะต้องแนบสนิทกับใบหน้า ครอบกระชับกับจมูกและใต้คาง การสวมใส่ถึงจะประสิทธิผลที่ดีที่สุด