ผ่านไปอีกขั้น… “อนุทิน” ดันแผนฟื้นฟู ขสมก.เข้า ครม.ในเดือนตุลานี้



  • ชี้หากตัดภาระทุกอย่างไปแล้ว ยังไม่มีกำไร อาจต้องเปลี่ยนผู้บริหาร 
  • ไม่ก็พิจารณาว่าจะแปลงสภาพ ขสมก. อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณา รายละเอียดแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนฟื้นฟูตามที่ปลัดกระทรวงคมนาคม  ในฐานะประธานคณะกรรมการปรับปรุง ขสมกได้เสนอมา ซึ่งเป็นแผนที่ได้มาจากการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักบริหารหนี้สาธารณะ โดยหลังจากนี้จะต้องนำเสนอบอร์ด ขสมกและนำกลับมาพิจารณาในคณะกรรมการชุดนี้อีกครั้ง ก่อนเสนอ ครม.ต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเสนอได้ภายในเดือนตุลาคมนี้ 

ส่วนการที่ ขสมกมีผลประกอบการขาดทุนทุกปีและต้องขอเงินชดเชยจากรัฐบาลทุกปีนั้น ขสมกถือเป็นบริการสาธารณะ  ที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นปัญหาที่สะสมมา 41 ปี และ ขสมก.ถือเป็นรัฐวิสาหกิจ  ไม่ได้เป็นบริษัทมหาชน เหมือนบริษัทการบินไทย จึงเป็นภาระของรัฐที่ต้องมาแก้ไขปัญหาหนี้ ซึ่งการแก้ปัญหาจะถือเป็นการรีเซต เช่น การหยุดการชำระดอกเบี้ยไว้ก่อน เพราะเจ้าหนี้ก็คือกระทรวงการคลัง หรืออาจจะเป็นการยกหนี้หรือจะทยอยผ่อนเงินต้นไปเรื่อยๆ แต่ต้องหลังจากที่ขสมก.จะมีกำไรก่อน ซึ่งสิ่งที่ ขสมก.จะได้คือ จะไม่มีภาระหนี้สินและดอกเบี้ย และสามารถวัดประสิทธิภาพของ ขสมกว่าจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร  แต่สิ่งสำคัญการดำเนินการทุกอย่างต้องไม่กระทบการบริการประชาชน อย่างไรก็ตาม หากแผนฟื้นฟูได้รับการอนุมัติ ก็จะทราบชัดเจนว่าจะมีกำไรหรือไม่ถ้าไม่มีกำไร ผู้บริหารก็อยู่ไม่ได้ 

นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าหาก ขสมก.ยังไม่สามารถทำกำไรได้อีก ทั้งที่มีการช่วยตัดภาระทุกอย่างไปแล้ว ก็ต้องกลับมาพิจารณาว่าจะแปลงสภาพ ขสมกอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ  ส่วนโครงการการจัดเช่ารถเมล์พลังงานไฟฟ้า 2,511 คันนั้น นายอนุทิน ก็อยู่ในแผนฟื้นฟู แต่การจัดหารถเช่าต้องมาดูศักยภาพ แต่จากนี้ไป ขสมก.จะไม่ค่อยมีการลงทุนมากแต่จะเน้นให้ผู้ประกอบการเข้ามารับสัมปทานเรื่องการเดินรถ ซึ่งการลงทุนต่างๆจะเป็นเรื่องของผู้รับสัมปทานไป เพื่อเป็นการลดภาระต่างๆ