

วันที่ 17 พ.ค.2564 นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่พบการแพร่ระบาด COVID-19 ในเรือนจำกลางเชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีผู้ต้องขังจำนวนมาก และอยู่ในพื้นที่ปิด โดยใช้มาตรการ “บับเบิ้ลแอนด์ซีล” ตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.2564 ใช้ระยะเวลา 28 วัน ดำเนินการคล้ายกับการล็อกดาวน์ และเร่งค้นหาผู้ที่มีอาการเข้ารักษาที่ รพ.สนามในเรือนจำ และตรวจหาภูมิคุ้มกันโรคทุก 14 วัน จำนวน 2 รอบ คาดว่าจะเหลือผู้ต้องขังที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน ประมาณ 10% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด รวมทั้งคาดว่าจะสามารถส่งคืนพื้นที่ปลอดโรคให้กับเรือนจำได้ภายในวันที่ 28 พ.ค.นี้ ขณะนี้อยู่ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 พบว่าผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ
ขณะที่ พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ที่ผ่านไป 17 วันแล้ว ได้สนับสนุนทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ ใช้ต้นแบบจากเรือนจำจังหวัดนราธิวาส โดยขอส่งกำลังใจให้กับทีมแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงสูง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน
ด้าน นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการควบคุมโรคในพื้นที่เรือนจำ ซึ่งเป็นพื้นที่ปิดและมีกิจกรรมทางสังคมไม่ซ้ำซ้อน โดยได้ขอจังหวัดเชียงใหม่ ใช้การควบคุมโรคแบบบับเบิ้ลแอนด์ซีล ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมดูแลด้วย ยืนยันว่าตัวเลขผู้ต้องขังติดเชื้อ จะไม่ส่งผลกระทบกับกรณี ศบค.เพิ่งปรับโซนสีของ จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) เพราะไม่ได้แพร่ระบาดในพื้นที่เมือง
สำหรับขั้นตอนจำกัดขอบเขตการระบาดไม่ให้กระจายจากแดนสู่แดน และไม่ให้กระจายสู่พื้นที่ภายนอก ใช้ระยะเวลาทั้งหมด 28 วัน โดยเร่งค้นหาผู้ป่วยเพื่อนำเข้าสู่การรักษาที่รวดเร็ว มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำที่มีศักยภาพสูง ดูแลผู้ป่วยตั้งแต่ระดับอาการสีเขียว เหลือง ส้ม และส่งต่อผู้ต้องขังระดับสีแดงออกมารักษาภายนอก 6 คน รวมทั้งเมื่อครบ 14 วัน จะตรวจภูมิต้านทานผู้ต้องขัง 2 รอบ เมื่อครบ 28 วันจะเหลือผู้ต้องขังที่ไม่มีภูมิกันไม่ถึง 10% ขณะนี้เหลืออีก 1 สัปดาห์จะครบ 28 วัน โดยจะตรวจหาภูมิคุ้มกัน และตรวจหาเชื้อ 5 วัน
ขณะที่ พล.ต.วุฒิไชย อิศระ รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก กล่าวว่า การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ สามารถลดการส่งต่อผู้ป่วยตั้งแต่ระดับสีเขียวเข้ม สีเหลืองได้ เป็นไปในลักษณะมินิไอซียู
ข้อมูลเมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) เรือนจำกลางเชียงใหม่ มียอดผู้ต้องขังทั้งหมด 6,311 คน พบติดเชื้อแล้ว 3,793 คน มีภูมิคุ้มกัน 1,532 คน เหลือยังไม่ติดเชื้อ 923 คน ส่วนผู้คุมฉีดวัคซีนครบแล้ว ยอดติดเชื้อ 2 คน โดยพบว่าผู้ต้องขังมีภูมิคุ้มกันแล้ว 1 ใน 4 หรือ 24.27% สะท้อนความสำเร็จในการป้องกันเชื้อออกไปภายนอก ลดอาการบาดเจ็บและสูญเสียของผู้ต้องขัง
นายสุรศักดิ์ เผื่อนคำ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ กล่าวว่า เรือนจำดังกล่าวมีจำนวนทั้งหมด 10 แดน จุดเริ่มต้นการแพร่ระบาดมาจากแดน 4 หรือแดนแรกรับ จากนั้นแพร่เชื้อไปที่แดน 6 แดน 5 แดน 7 และแดน 8 จนเกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว
ทั้่งนี้ ได้ปรับเปลี่ยนแดน 2 พื้นที่บริเวณหน้าเรือนจำ เป็นแดนแรกรับ รองรับ 150 คน เพื่อป้องกันผู้ต้องขังใหม่แพร่เชื้อในเรือนจำ