“นิรุฒ”ผู้ว่ารถไฟไทยคนใหม่ประกาศลั่น!นำรถไฟไทยกลับมาเป็นผู้ให้บริการระบบรางของรัฐที่ดีที่สุดในอาเซียนในปี 70 ชู3กลยุทธ์เน้นพัฒนาคน จับมือลาดกระบังสร้างโรงเรียนรถไฟระดับปริญาตรี ส่วนคดีโฮปเวลล์พร้อมสู้ไม่ถอย เดินหน้าฟ้องศาลเพิกถอนจดทะเบียนของโฮปเวลล์แล้ว ส่วนคนบุกรุกเขตทางรถไฟเจอแน่ ยอมไม่ได้ภายในปีนี้ลุยทุกพื้นที่จัดระเบียบ-สร้างรายได้ เล็งพื้นที่สถานีใหญ่ “ขอนแก่น-โคราช” ส่วนตลาดร่มหุบ อันซีนเมืองไทย ยอมให้มีอยู่แต่ขอจัดระเบียบสวยงามปลอดภัย ไม่ใช่โผล่หน้าออกนอกตัวรถเจอชายคาร่มตีหน้า
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เปิดเผยถึงนโยบายและยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนรฟท.ว่า หลังจากที่รับตำแหน่งมีเป้าหมายที่จะเข้ามาฟื้นฟูปรับปรุง รฟท.ให้กลับมาเป็นผู้ให้บริการระบบรางของรัฐที่ดีที่สุดในอาเซียนในปี 70 ซึ่งการขับเคลื่อนตนได้วางยุทธศาสตร์หลักไว้ 3 ด้าน ประกอบด้วย 1”เพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการขนส่งทางราง เพิ่มการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 5 %รวมถึงการเพิ่มจำนวนผู้โดยสาร ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารประมาณ 35 ล้านคน ซึ่งเป็นผู้โดยสารเชิงสังคมจำนวน 20 ล้านคน และเป็นผู้โดยสารเชิงพาณิชย์จำนวน 10 ล้านคน นอกจากนั้นจะเร่งรัดดำเนินการในโครงการการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ โครงการระบบรถไฟชานเมืองสานสีแดง และส่วนต่อขยาย โครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-นครราชสีมา และโครงการรถไฟเชื่อม 3สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)
2. การเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่าย ซึ่งรฟท.จะไม่หวังรายได้จากการเช่าที่ดินได้เพียงอย่างเดียวขณะเดียวกันจะเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน พัฒนาสร้างให้เกิดรายได้ บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการสร้างรายได้เสริมจากทรัพย์สินที่มีอยู่ ส่วนการลดค่าใช้จ่ายจะนำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการ บูรณาการข้อมูลช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ และ 3.ขับเคลื่อนและการยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน ให้รถไฟเป็นองค์กรที่คนอื่นมองเข้ามาแล้วเป็นองค์กรที่ชาญฉลาด ไม่ล้าหลัง ไม่ทุจริต มีประสิทธิภาพทำงาน ซึ่งสิ่งสำคัญคือ บูรณาการ เรื่องบุคลากรรถไฟเป็นหลัก
นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า ในส่วนของความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงนั้นยอมรับว่าการก่อสร้างจะไม่แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา คาดว่าภายใน 2-3 เดือนนี้จะได้ข้อสรุปเรื่องรูปแบบการเดินรถ และการขยายเวลาการก่อสร้าง เบื้องต้นคาดว่าหากขยายเวลาเพิ่มเติมก็จะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคมปี 64
ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่เฟสสอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาพัฒน์ โดยเฉพาะเส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอให้ครม.พิจารณาการแบ่งสัญญาให้เป็น 3 สัญญา เนื่องจากก่อนหน้านี้ซุปเปอร์บอร์ดเห็นว่าควรแบ่งสัญญาเพราะจะได้ประโยชน์สูงสุด ส่วนการเวนคืนจะทำคู่ขนานกันไป ส่วนเส้นทางบ้านไผ่-นครพนม ขณะนี้ครม.อนุมัติแล้วและคาดว่า จะเริ่มเปิดประมูลทั้งสองเส้นได้ปลายปีนี้
นอกจากนั้นในส่วนของการพัฒนาบุคคลกรรถไฟนั้น รฟท. มีโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ ซึ่งปัจจุบันตนได้มีการหารือกับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อเข้ามาพัฒนาหลักสูตร ให้ได้ตามมาตรฐานโดยหลักสูตรจะเป็นปริญญาตรี ซึ่งความร่วมมือนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพบุคคลากร คนรถไฟโดยจะเปิดรับสมัครได้ในปี 64 นี้ อีกทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศที่มุ่งทางระบบราง ขณะเดียวกัน รถไฟถือได้ว่าเป็นแหล่งปฎิบัติที่ครบมากที่สุด
นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า ส่วนการเข้ามาบริหารจัดการทรัพย์สินที่ดินของรถไฟเพื่อเพิ่มมูลค่าในขณะนี้ที่มีกว่า 20,000 ไร่ แต่มีรายได้จากการเก็บค่าเช่าเพียงปีละ 2-3,000 ล้านบาทเท่านั้น จากที่ดินที่ รฟท. มีทั่วประเทศกว่า 240,000 ไร่ ซึ่งหลังจากนี้จะเข้าไปดูและปรับการบริหารจัดการทรัพย์สินให้เพิ่มมูลค่ามากขึ้นซึ่งจะเห็นเป็นรูปธรรมในปีนี้ทั้งเรื่องการปรับค่าเช่าบางพื้นที่ ลดขั้นตอนการบริหารจัดการ เป็นต้น โดยเฉพาะพื้นที่มีศักยภาพ ในเส้นทางภาคตะวันออกเชื่อมต่อท่าเรือแหลมฉบัง สถานีรถไฟขอนแก่น สถานีรถไฟนครราชสีมา
นอกจากนั้นในส่วนของพื้นที่บุกรุกตามเขตทางรถไฟ ยอมรับว่ามีหลายพื้นที่ที่มีการบุกรุก และมีการจ่ายค่าเช่าที่ไม่เข้ารถไฟโดยตรง ซึ่งตรงนี้ยอมรับว่า ไม่สามารถยอมได้ ดังนั้นต้องเข้าไปจัดระบียบ บริหารจัดการให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรมขึ้น รวมถึงจะมีการประสานกับธนาคารกรุงไทยเพื่อให้เข้ามาจัดระบบการจ่ายเงินค่าเช่าผ่านธนาคารหรือผ่านแอพพลิเคชั่นเพื่อให้ผู้เช่าที่ พื้นที่ของรถไฟจ่ายค่าเช่าผ่านแอพพลิเคชั่นตรง ซึ่งส่วนนี้จะทำให้เงินไม่รั่วไหล โดยเรื่องนี้จะเสนอบอร์ด รฟท. เร็วๆนี้
ส่วนกรณีพื้นที่ตลาดที่อยู่ตามเขตทางรถไฟนั้น บางพื้นที่ต้องจัดระเบียบใหม่เนื่องจากไม่ปลอดภัยต่อการเดินรถไฟ ประกอบกับพื้นที่ชิดติดเขตทาง รางรถไฟ เช่น ตลาดคลองตัน ส่วนตลาดร่มหุบ แม่กลองนั้นถือเป็นอันซีนเมืองไทยจะยังให้คงมีอยู่แต่รฟท.จะเข้าไปจัดระเบียบให้เรียบร้อย รวมถึงความสะอาดด้วย แต่ยังคงต้องสอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่
