ผู้ผลิตผ้าอ้อมเด็ก-ผู้ใหญ่ยันยังไม่ขึ้นราคา



  • หลังกรมการค้าภายในเรียกถกขอตรึงราคาเดิม
  • แม้ค่าไฟฟ้า-ค่าแรงพุ่งแต่ต้นทุนน้ำมันมีแนวโน้มลด
  • พร้อมจัดสินค้าราคาพิเศษขายทั่วประเทศถึง มี.ค.นี้

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้หารือกับผู้ผลิตและผู้จำหน่ายผ้าอ้อมเด็กและผู้ใหญ่ 7 รายสำคัญ โดยได้ขอความร่วมมือให้ตรึงราคาสินค้าต่อเนื่อง หลังจากมีข่าวว่าจะขอปรับขึ้นราคาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมี.ค.66 เป็นต้นไป ซึ่งผู้ผลิตและผู้จำหน่ายยินดีที่จะให้ความร่วมมือตรึงราคาไว้เท่าเดิม และได้แจ้งไปยังห้างและร้านค้าต่างๆ แล้ว

นอกจากนี้ ทั้ง 7 รายยังจะร่วมมือกับกรม จัดสินค้าผ้าอ้อมเด็กและผู้ใหญ่ นำไปจำหน่ายในโครงการ “พาณิชย์ลดราคา! Grand Sale ทั่วไทย” ในราคาพิเศษ ซึ่งขณะนี้ยังดำเนินการอยู่ และหมุนเวียนดำเนินการในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเน้นในแหล่งชุมชน โดยจะมีไปจนถึงเดือนมี.ค.66 และจะนำไปจำหน่ายผ่านรถโมบาย ที่วิ่งจำหน่ายประมาณ 100 จุด ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลด้วย

“ผู้ผลิตแจ้งว่า ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นจริง โดยเฉพาะค่าไฟฟ้า และค่าแรง แต่เมื่อมาหารือกับกรม ก็รับทราบปัญหาของพี่น้องประชาชนที่จะได้รับความเดือดร้อน และยินดีตรึงราคาเอาไว้ ยังไม่ปรับขึ้นตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ และคาดหวังว่าต่อไป ต้นทุนการผลิตจะปรับลดลง ทำให้ไม่กระทบต่อต้นทุน ซึ่งล่าสุด ราคาน้ำมัน ก็มีแนวโน้มลดลง”

สำหรับทั้ง 7 ราย ได้แก่ บมจ.ดีเอสซี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ผ้าอ้อมเด็ก เบบี้เลิฟ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ เซอร์เทนตี้, บจ.ยูนิชาร์ม (ประเทศไทย) ผ้าอ้อมเด็ก มามี่โพโค ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ไลฟรี่ , บจ.โมเดิร์น ซอฟท์ โปรดักส์  ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ไอแคร์ , บจ.คาโอ อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) ผ้าอ้อมเด็กเมอร์รี่ส์ , บจ.พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง(ประเทศไทย) ผ้าอ้อมเด็กแพมเพิร์ส , บจ.คิมเบอร์ลี่ย์-คล๊าค ประเทศไทย ผ้าอ้อมเด็กฮักกี้ส์ และบจ.ฟูเบิร์ด อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) ผ้าอ้อมเด็กทีโน่ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่อันอัน อันแคร์ และฟิลฟรี

นายวัฒนศักย์ กล่าวต่อถึงสำหรับสถานการณ์สินค้าอื่นๆ ว่า มีแนวโน้มดีขึ้น โดยได้รับผลบวกจากโครงการรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ เช่น ช้อปดีมีคืน การจัด “พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน” Lot 22 New Year Grand Sale 2023 ที่เพิ่งจบไป โครงการ “พาณิชย์ลดราคา! Grand Sale ทั่วไทย” ที่ยังดำเนินการอยู่ หรือการจัดโปรโมชันของห้าง ที่นำสินค้าที่จำเป็นหลากหลายชนิดมาหมุนเวียนจัดโปรดมชันลดราคาขาย และการเปิดประเทศ ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทยมากขึ้น ทำให้ผู้ผลิตมียอดขายเพิ่มขึ้น 10-15% หรือบางรายการ เช่น หมวดอาหาร เพิ่มขึ้น 15-20% ทำให้แรงกดดันที่จะต้องปรับขึ้นราคาลดลง และหลายรายการ มีแนวโน้มลดราคาลงอีก เช่น น้ำมันปาล์ม หมูไก่ ไข่ เป็นต้น