ป้องโควิดระบาดในวัด กทม.ลุยฉีดวัคซีนให้พระสงฆ์-สัปเหร่อ ออกข้อปฏิบัติจัดการศพที่ต้องทำ

  • ลุยฉีดในเขตกรุงธนเหนือ 8 เขต จำนวน 152 แห่ง เขตกรุงธนใต้ 6 เขต จำนวน 69 แห่ง
  • เผยวันนี้ฉีดวัคซีนพระภิกษุสงฆ์ 577 รูป เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง 309 คน
  • แนะควรใช้เตาเผาศพโควิดแบบปลอดมลพิษแบบสองห้องเผา

วันนี้ (30 ก.ค.64) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนแก่พระภิกษุสงฆ์ และเจ้าหน้าที่ผู้จัดการศพในวัดพื้นที่กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ และกลุ่มเขตกรุงธนใต้ โดยมี พระเทพประสิทธิมนต์ (โกศล มหาวีโร) ที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดารามวรวิหาร นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักการแพทย์ รพ.ราชพิพัฒน์ สำนักงานเขตบางกอกน้อย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จิตอาสา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ด้วย ณ วัดศรีสุดารามวรวิหาร เขตบางกอกน้อย

ทั้งนี้ทางกรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานเขตบางกอกน้อย ร่วมกับโรงพยาบาลราชพิพัฒน์ สำนักการแพทย์ ให้บริการวัคซีนป้องกันเชิงรุกแก่พระภิกษุสงฆ์ เจ้าหน้าที่ผู้จัดการศพ (สัปเหร่อ) มัคนายก ตลอดจนบุคลากรของวัดในพื้นที่กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ 8 เขต จำนวน 152 แห่ง และกลุ่มเขตกรุงธนใต้ 6 เขต จำนวน 69 แห่ง รวมจำนวนทั้งสิ้น 221 แห่งโดยสำหรับในวันนี้มีพระภิกษุสงฆ์เข้ารับการฉีดวัคซีน 577 รูป และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้ารับการฉีดวัคซีน จำนวน309 คน รวมผู้เข้ารับบริการ 886 คน

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาวัดศรีสุดารามวรวิหาร ได้ให้ความอนุเคราะห์พื้นที่เพื่อให้กรุงเทพมหานครได้ใช้ในการจัดตั้งเป็นรพ.สนามและศูนย์พักคอยเพื่อส่งต่อ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความครบวงจร และมีประโยชน์กับประชาชนเป็นอย่างมาก

สำหรับในวันนี้กรุงเทพมหานครได้จัดบริการฉีดวัคซีนเพื่อให้บริการแก่พระสงฆ์ เณร แม่ครัว เจ้าหน้าที่วัด ซึ่งเข้าเกณฑ์การรับวัคซีน คือมีอายุ 18 ปีขึ้นไป รวมถึงให้บริการพระสงฆ์จากทุกนิกาย และเจ้าหน้าที่วัดในพื้นที่ฝั่งธนบุรีทั้งหมด ในส่วนของพระสงฆ์และเจ้าหน้าที่วัดในพื้นที่อื่นอีก 35 เขต จะให้บริการในวันที่ 1 ส.ค.2564 ณ จุดฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล หน่วยความร่วมมือกรุงเทพมหานคร-หอการค้าไทย SCG บางซื่อ โดยวัดที่ประสงค์เข้ารับวัคซีนสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานพระพุทธศาสนา เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมความพร้อมและมาตรการต่างๆ ให้ถูกต้องและเป็นไปตามสุขลักษณะต่อไป

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักอนามัยได้ออกข้อปฏิบัติในการจัดการศพผู้เสียชีวิตด้วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 สำหรับผู้ปฏิบัติงานฌาปนสถาน เพื่อให้ผู้ที่ปฏิบัติและผู้เกี่ยวข้องสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และไม่ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคออกไปสู่ภายนอก 

โดยศพผู้เสียชีวิตที่จะรับมาประกอบพิธี ณ ฌาปนสถานจำเป็นต้องผ่านการบรรจุศพลงในถุงบรรจุศพอย่างถูกวิธีจากสถานพยาบาล เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคแล้ว เมื่อศพผู้เสียชีวิตได้เคลื่อนย้ายมาถึงฌาปนสถานให้ปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนด อาทิ ผู้ปฏิบัติงานที่ต้องสัมผัสกับศพ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ที่สัมผัสกับศพ เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายศพ ต้องสวมถุงมือยาง หน้ากากอนามัย และเสื้อคลุมกันเปื้อน แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ไม่ต้องสวมชุด PPE เนื่องจากถุงศพภายนอกผ่านการบรรจุศพอย่างถูกวิธีเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคแล้ว

อีกทั้งในการเผาศพควรใช้เตาเผาศพปลอดมลพิษแบบสองห้องเผา กล่าวคือ มีห้องเผาศพและห้องเผาควันใช้น้ำมันดีเซลหรือก๊าซหุงต้มเป็นเชื้อเพลิง มีระบบควบคุมการทำงานของหัวเผาและอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ในระหว่างการเผาศพ ให้งดหรือหลีกเลี่ยงการเปิดประตูเตา หากจำเป็นต้องเปิดประตูเตาเพื่อเขี่ยศพหรือพลิกศพ ต้องปิดหรือลดความแรงของพัดลมในห้องเผาลงให้มากที่สุด เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของสารคัดหลั่งจากศพ เมื่อเผาศพเสร็จเรียบร้อยแล้วถือได้ว่าเชื้อโรคถูกเผาทำลายไปหมดแล้ว จากนั้นให้ดำเนินการเก็บกระดูกเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศล แล้วจัดการขี้เถ้าที่เหลืออย่างถูกสุขลักษณะต่อไป

ทั้งนี้สำหรับผู้จัดงาน ห้ามเคลื่อนย้ายศพออกจากหีบศพ และห้ามเปิดถุงบรรจุศพ เพื่อทำการแต่งหน้าหรืออาบน้ำศพโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค หากจะทำการรดน้ำศพให้ใช้วิธีการโยงสายสิญจน์ หรือผ้าโยงจากหีบศพเท่านั้น การสวดพระอภิธรรมและการบำเพ็ญกุศลศพ สามารถดำเนินการได้เหมือนศพปกติทั่วไป แต่ให้ถือปฏิบัติเกี่ยวกับการรวมตัวของผู้คน ได้แก่ ควรคัดกรองคนเข้าร่วมงาน การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และการจัดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ เป็นต้น รวมทั้งควรจำกัดจำนวนวันในการประกอบพิธีกรรมเท่าที่จำเป็น