ปี 66-67 อุณหภูมิโลกจ่อพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์



.เป็นเพราะเกิดเอลนีโญที่ทำให้ฝนแล้ง อากาศร้อนขึ้น
.หลังเกิดลานีญา ที่ทำให้ฝนตกชุก อากาศเย็นมา 3 ปีติด
.นักภูมิอากาศวิทยาคาดเอลนีโญรุนแรงขึ้นปลาย

นักภูมิอากาศวิทยา ระบุ โลกอาจได้รับการบันทึกสถิติอุณหภูมิเฉลี่ยใหม่ในปี 66 หรือ 67 หลังการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Nino) ที่ทำให้เกิดความร้อน และแห้งแล้งมากขึ้น

ทั้งนี้ จากการทำแบบจำลองสภาพภูมิอากาศ ชี้ให้เห็นว่า หลังจากเกิดปรากฏการณ์ลานีญา (La Nina) ในมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นเวลา 3 ปี ที่ทำให้เกิดฝนตกชุก และอุณหภูมิโลกลดต่ำลงเล็กน้อย จากนั้นโลกก็จะเผชิญกับปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่ทำให้ฝนตกน้อย และอุณหภูมิโลกสูงขึ้นในปีนี้


ในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญนั้น กระแสลมที่พัดไปทางทิศตะวันตกตามแนวเส้นศูนย์สูตรจะเคลื่อนตัวช้าลง และผิวน้ำทะเลทางตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนจะอุ่นขึ้น ซึ่งจะทำให้อุณหภูมิพื้นผิวมหาสมุทรอุ่นขึ้น


นายคาร์โล บวนเทมโป ผู้อำนวยการหน่วยงานติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Copernicus Climate Change Service – C3S) ของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่า “โดยปกติแล้ว ปรากฏการณ์เอลนีโญ มักทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นจนทำลายสถิติมาโดยตลอดอยู่แล้ว หรือแม้แต่เอลนีโญที่จะเกิดขึ้นในปี 66 หรือ 67 ก็เช่นกัน ซึ่งผมคิดว่า มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง


นายบวนเทมโป กล่าวเสริมว่า “แบบจำลองสภาพภูมิอากาศบ่งชี้ว่า ภาวะเอลนีโญจะเกิดขึ้นในช่วงปลายฤดูร้อน และมีความเป็นไปได้ที่ปรากฏการณ์นี้จะรุนแรงขึ้นในช่วงปลายปี”
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปีที่อุณหภูมิโลกร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ คือปี 59 ซึ่งตรงกับการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ทำให้อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ไม่มีปรากฏการณ์เอลนีโญก็ตาม